เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๖ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
การเยือนดังกล่าวเป็นการเยือนในระดับทวิภาคีอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน โดยเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความมั่นคงและมั่งคั่งร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชา
ระหว่างการเยือนดังกล่าว นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาได้หารือประเด็นสำคัญต่าง ๆ ในบรรยากาศที่เป็นมิตร โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะใช้ประโยชน์จากกลไกความร่วมมือทวิภาคีที่มีอยู่ทั้งหมด อาทิ การประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat: JCR) การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (Joint Commission for Bilateral Cooperation: JC) การประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee : JTC) และคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง รวมถึงความร่วมมือในระดับประชาชน ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมการผสานพลังทางเศรษฐกิจของสองประเทศใน ๕ ด้าน ได้แก่ การค้า การท่องเที่ยว การลงทุน การพัฒนาพื้นที่ชายแดน และเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว
ประการแรก ทั้งสองประเทศจะส่งเสริมการอำนวยความสะดวกการค้าระหว่างกันเพื่อบรรลุเป้าหมายการค้าที่ ๑.๕ หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี ๒๕๖๘ และจะเร่งรัดการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท) อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ ๖๐ ของมูลค่าการค้าไทย-กัมพูชา ทั้งหมด
ประการที่สอง ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด ?สองราชอาณาจักร หนึ่งจุดหมายปลายทาง? รวมทั้งจะหารือมาตรการต่าง ๆ รวมถึงการใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Temporary Border Pass) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวข้ามแดนระหว่างกัน
ประการที่สาม ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางในการเพิ่มการลงทุนและการส่งเสริมการจับคู่ธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และผู้ประกอบการรุ่นใหม่
ประการที่สี่ ทั้งสองประเทศจะส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ชายแดนโดยการยกระดับยกจุดผ่านแดนต่าง ๆ และเร่งรัดการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ต่าง ๆ ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและปูทางไปสู่การพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ในโอกาสนี้ ฝ่ายไทยได้ให้คำมั่นที่จะบริจาคเงินอุดหนุนตามความสมัครใจรวมจำนวน ๓๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐให้แก่ศูนย์ทุ่นระเบิดภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Regional Mine Action Center: ARMAC) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ
ประการที่ห้า ทั้งสองประเทศจะแสวงหาความร่วมมือในภาคเศรษฐกิจแห่งอนาคต โดยเฉพาะเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว
ในด้านความมั่นคงทั้งสองฝ่ายสนับสนุนให้หน่วยงานความมั่นคงไทยและกัมพูชาทุกระดับมีการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอและใกล้ชิด นอกจากนั้น ยังเห็นพ้องที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะขบวนการหลอกลวงออนไลน์
ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างประชาชนสองประเทศ โดยการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนด้านการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำความจำเป็นในการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดระหว่างประชาชนสองฝ่ายซึ่งเกิดจากข่าวลวงในสื่อออนไลน์
นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้เชิญสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายสะดวก ซึ่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ตอบรับคำเชิญด้วยความยินดี
ในโอกาสเดียวกัน นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้เป็นประธานร่วมในพิธีส่งมอบศูนย์แรกรับเหยื่อการค้ามนุษย์และกลุ่มเสี่ยงที่ปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งกรมความร่วมมือระหว่างประเทศได้สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้าง เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค
ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินได้วางพวงมาลา ณ วิมานเอกราช และวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระบรมรัตนโกศ และเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จวิบุลเสนาภักดี ซาย ชุม ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์และประธานวุฒิสภาราชอาณาจักรกัมพูชา สมเด็จอัคคมหาเสนาธิบดีเดโช ฮุน เซน ประธานองคมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา และสมเด็จมหารัฐสภาธิการธิบดี ควน โซะดารี ประธานรัฐสภาราชอาณาจักรกัมพูชา
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ