สรุปการแถลงข่าวในประเด็นสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล
โดยนางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
ประจำวันศุกร์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๕.๐๐ น.
ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวานนี้ (๑๒ ต.ค. ๒๕๖๖) นรม. ได้มาเป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Centre: RRC) ที่กระทรวงฯ และได้ย้ำเรื่องการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล
ถือเป็นภารกิจของชาติ ของทุกหน่วยงาน และเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ นรม. ได้เชิญเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยมาพบหารือ โดย นรม. ขอให้ฝ่ายอิสราเอลช่วยอำนวยความสะดวกส่งคนไทยกลับบ้านโดยเร็วที่สุด โดยคำนึงว่า แรงงานไทยเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ซึ่ง ออท. อิสราเอลฯ แจ้งว่า ทางการอิสราเอลได้อพยพแรงงานต่างชาติกว่าร้อยละ ๙๙ ออกมายังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ทั้งนี้ นรม. ได้ย้ำเรื่องการส่งกลับเป็นเป้าหมายสูงสุด ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ รับจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
๑. พัฒนาการสถานการณ์
สถานการณ์ในอิสราเอลยังคงความรุนแรง อย่างไรก็ดี มีการระงับการโจมตีด้วยจรวดในฉนวนกาซาไปบางช่วง ซึ่งอาจเกิดจากการที่กลุ่มฮามาสกำลังเตรียมการตั้งรับการกระชับพื้นที่ของอิสราเอล
หน่วยงานต่าง ๆ ของอิสราเอลอยู่ระหว่างพิจารณาแผนจัดตั้งพื้นที่อยู่อาศัยชั่วคราวสำหรับชาวอิสราเอลที่อพยพออกจากพื้นที่รอบฉนวนกาซา โดยจะประกอบด้วยบ้าน / อาคารชั่วคราว / โรงเรียน / และศูนย์สุขภาพ ซึ่งจะกำหนดพื้นที่ที่แน่นอนต่อไป
๒. ความคืบหน้าผลกระทบต่อคนไทยในพื้นที่
จำนวนผู้เสียชีวิต / ได้รับบาดเจ็บ / เป็นตัวประกัน ยังคงเท่ากับวานนี้ (๑๒ ต.ค. ๒๕๖๖) ได้แก่
ผู้เสียชีวิต : ๒๑ ราย
ผู้บาดเจ็บ : ๑๔ ราย
ผู้ถูกลักพาตัว : ๑๖ ราย
วานนี้ สอท.ฯ รายงานเพิ่มเติมว่า พบแรงงานไทยจำนวน ๒ รายที่หลบซ่อนตัวอยูที่ Kibbutz Nahal Oz ติดชายแดนฉนวนกาซานานกว่า ๕ วัน ซึ่งทั้งคู่อยู่ระหว่างเข้ารับการรักษาจากแพทย์ โดยหากทั้งคู่ประสงค์จะกลับไทย สอท.ฯ ก็จะอำนวยความสะดวกต่อไป
๓. การอพยพคนไทย
ในวันนี้ (๑๓ ต.ค. ๒๕๖๖) แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอล ๑๙ ราย ด้วยสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY 085 มีกำหนดถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา ๑๖.๕๗ น. และทราบว่ามีบางส่วนที่ซื้อตั๋วเครื่องบินเองกลับมาในเที่ยวบินเดียวกันด้วย
ในวันพรุ่งนี้ (๑๔ ต.ค. ๒๕๖๖) สอท.ฯ จะอพยพแรงงานไทย ครั้งที่ ๓ จำนวน ๑๐๐ ราย ด้วยสายการบิน Fly Dubai ซึ่งจะเปลี่ยนเครื่องที่นครดูไบ และจะเดินทางต่อด้วยเที่ยวบินที่ FZ 1837 โดยจะถึงประเทศไทยในวันที่ ๑๕ ต.ค. ๒๕๖๖ เวลา ๐๗.๒๕ น. ณ สนามบินอู่ตะเภา
และเมื่อถึงสนามบินแล้ว จะมีรถบัสรับจากอู่ตะเภาไปยัง รร. SC Park กรุงเทพฯ เพื่อให้ญาติพี่น้องของคนไทยกล่มนี้รอรับได้ตั้งแต่ประมาณ ๑๐.๐๐ น. เป็นต้นไป
สอท.ฯ จัดเที่ยวบินพิเศษ สายการบิน El Al Israel Airlines ในวันที่ ๑๖ ต.ค. ๒๕๖๖ ซึ่งสามารถนำคนไทยกลับได้ จำนวน ๒๕๐ ที่นั่ง (รอยืนยันกำหนดเวลา)
เช้านี้ รมช.กต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้หารือเพิ่มเติมกับสายการบินพาณิชย์ ประกอบด้วย นกแอร์ / Air Asia / และการบินไทย เพื่อร่วมสนับสนุนภารกิจครั้งนี้ โดยตั้งเป้าอพยพคนไทยให้ได้อย่างน้อย ๔๐๐ คนต่อวัน (รวมทุกช่องทาง)
การตอบแบบฟอร์มแสดงความประสงค์กลับไทย รวม ๖,๘๖๓ คน (สถานะวันที่ ๑๒ ต.ค. ๒๕๖๖) :
(๑) ประสงค์กลับไทย ๖,๗๗๘ ราย (บางส่วนกรอกซ้ำ และบางส่วนแสดงความประสงค์พำนักต่อในอิสราเอล) และ (๒) ไม่ประสงค์เดินทางกลับ ๘๕ ราย
สอท.ฯ ได้เตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับคนไทยที่โรงแรม Dan Panorama Tel Aviv (ที่อยู่ : Kaufmann St 10, Tel Aviv-Yafo) ซึ่งจะจัดที่พักและอาหาร เพื่อรอเดินทางไปสนามบินเพื่อกลับไทย ตอนนี้มีประมาณ ๑๐๐ ห้อง และสามารถเพิ่มเติมได้ (หมายเหตุ : ต่อมา สอท.ฯ ขอแจ้งเปลี่ยนสถานที่ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไป)
การจ่ายค่าชดเชยที่เกี่ยวกับการเดินทาง
โดยที่ นรม. ได้ให้นโยบายที่จะช่วยเหลือพี่น้องคนไทยในอิสราเอลทุกคนที่ประสบภัย ที่ประชุม RRC ช่วงบ่ายวันนี้ ได้เห็นชอบในหลักการที่จะจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ที่เดินทางกลับไทยตั้งแต่วันที่อิสราเอลประกาศสงคราม (วันที่ ๗ ต.ค. ๒๕๖๖)
หลักฐานประกอบการเบิกจ่าย อาทิ Boarding pass / ใบเสร็จ หรือตั๋วเครื่องบิน ประกอบกับหนังสือเดินทาง / บัตรประชาชน
ช่องทางการยื่นเอกสาร : ผ่านสำนักงานแรงงานจังหวัด และกระทรวงแรงงาน
ในชั้นนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหารือในรายละเอียด จึงขอให้เก็บเอกสารดังกล่าวไว้ก่อน และรอฟังประกาศในรายละเอียดจากทางการต่อไป
๔. ประเด็นอื่น ๆ
ตามที่เคยมีการรายงานเกี่ยวกับแรงงานไทยถูกบังคับให้ทำงานต่อในภาวะสงคราม ได้รับทราบว่า ผู้ที่เคยให้ข่าวในเรื่องนี้ได้ให้สัมภาษณ์แล้วว่า มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไป รวมถึง ออท. ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการที่ทางการอิสราเอลโยกย้ายแรงงานไปทำงานในพื้นที่ปลอดภัย อย่างไรก็ดี นรม. ได้ย้ำเรื่องนี้กับ ออท. อิสราเอลฯ เช้านี้อีกครั้งหนึ่งด้วย
กระทรวงฯ ขอขอบคุณบริษัท AIS ที่ได้บริจาคซิมโทรศัพท์มือถือเพื่อสนับสนุนระบบสื่อสารภารกิจช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลเมื่อวานนี้ด้วย ซึ่ง กต. และ รง. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเดินทางไปสนับสนุนภารกิจที่อิสราเอล
ปัจจุบัน ตามที่ปรากฏตามรายงานข่าว จำนวนผู้เสียชีวิตชาวไทยไม่ใช่จำนวนสูงสุดแล้ว อย่างไรก็ดี ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดก็ตาม
กองการสื่อมวลชน
กรมสารนิเทศ
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ