เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๖ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมคณะของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) อย่างเป็นทางการ
ภายหลังเสร็จสิ้นการเยือนของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือทวิภาคีกับนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป. ลาว เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการให้เป็นไปตามผลการหารือระหว่างผู้นำสองประเทศ และความร่วมมือในช่วงที่ สปป. ลาว เป็นประธานอาเซียนในปี ๒๕๖๗
ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำความสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่างไทย - ลาว ที่เป็น ?บ้านใกล้เรือนเคียง? ที่มีความผูกพันใกล้ชิดกันในทุกด้าน โดยการเยือน สปป. ลาว ของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความใกล้ชิดดังกล่าวและเป็นการสานต่อพลวัตที่ดีของความสัมพันธ์ระหว่างกัน ผ่านการแลกเปลี่ยนการเยือนและการปรึกษาหารือระดับสูงกันอย่างสม่ำเสมอ โดย สปป. ลาว จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือ ทวิภาคีไทย-ลาว ครั้งที่ ๒๓ ในปี ๒๕๖๗ ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป. ลาว เยือนไทย ซึ่งฝ่ายลาวตอบรับด้วยความยินดี
ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญอย่างมากกับการเพิ่มปริมาณการค้าให้บรรลุเป้าหมายการค้าที่ ๑๑,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ๓.๖ แสนล้านบาท ในปี ๒๕๖๘ โดยไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป. ลาว โดยเร็วในปี ๒๕๖๗ เพื่อกำหนดแนวทางอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน นอกจากนี้ ไทยพร้อมที่จะจัดการการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าแขวงไทย-ลาว ในช่วงต้นปี ๒๕๖๗ เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างจังหวัดและแขวงชายแดน
ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำความจำเป็นในการผลักดันให้กลไกทวิภาคีที่เกี่ยวข้องกับโครงการความเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันให้โครงการต่าง ๆ มีความคืบหน้าตามกรอบเวลาที่ผู้นำสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ได้แก่ การเริ่มก่อสร้างโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ ๒ (หนองคาย ? เวียงจันทน์) ก่อนปี ๒๕๖๙ และการขยายบริการรถไฟข้ามแดนจากหนองคายไปถึงสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ภายในต้นปีหน้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงกับโครงการรถไฟลาว ? จีน ให้สะดวกยิ่งขึ้น
ด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ สองฝ่ายได้ตกลงที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อลดระยะเวลาและต้นทุนของการเปลี่ยนถ่ายสินค้า ทั้งทางรางและทางถนน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ของสองประเทศและภูมิภาค และจะร่วมมือกันเร่งรัดให้มีการจัดตั้งพื้นที่ควบคุมร่วมกัน (Common Control Area: CCA) บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ ๒ (มุกดาหาร ? สะหวันนะเขต) เพื่อลดขั้นตอนด้านพิธีการศุลกากร ณ จุดผ่านแดนดังกล่าว และส่งเสริมการคมนาคมขนส่งระหว่างไทย - ลาว ? เวียดนาม
ด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายจะผลักดันให้หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของสองประเทศเร่งจัดทำแผนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันในโอกาสปีแห่งการท่องเที่ยว สปป. ลาว ในปี ๒๕๖๗
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ใช้โอกาสนี้หารือกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป. ลาว เกี่ยวกับประเด็นที่ สปป. ลาว จะให้ความสำคัญในการเป็นประธานอาเซียนในปี ๒๕๖๗ โดยได้เน้นย้ำความพร้อมของไทยที่จะสนับสนุน สปป. ลาว อย่างเต็มที่
ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ไปเยี่ยมชมเขตโลจิสติกส์นครหลวงเวียงจันทน์ (Vientiane Logistics Park: VLP) เพื่อหารือแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดอุปสรรค และอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าทางรถไฟไทย ? ลาว ? จีน ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้ประกอบการไทยให้ความสำคัญ
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบปะกับกลุ่มนักธุรกิจไทยใน สปป. ลาว เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับ สปป. ลาว ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ