สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลามเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเฉลิมฉลองครบรอบ ๔๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - บรูไนดารุสซาลาม
เมื่อวันที่ ๒๘ ? ๒๙ เมษายน 2567 สมเด็จพระราชาธิบดีฮาจี ฮัซซานัล บลเกียะฮ์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละฮ์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยมีเจ้าชายอับดุล มาติน โดยเสด็จพร้อมด้วย ดาโตะ เซอรี เซอเตีย (ดร.) ฮาจี อาวัง โมฮัมมัด อามิน ลิว บิน อับดุลละฮ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและเศรษฐกิจ คนที่ ๒ ดาโตะ เซอรี เซอเตีย อาวัง ฮาจี เอรีวัน บิน เปอฮิน ดาตู บิน เปเกอร์มา จายา ฮาจี โมฮัมมัด ยูซฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คนที่ ๒ ดาโตะ ดร. อับดุล มานัฟ เมตุซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรขั้นพื้นฐานและการท่องเที่ยว และผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานบรูไน ฯ ทั้งนี้ เป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ฯ อย่างเป็นทางการในรอบ ๑๒ ปี
กำหนดการสำคัญในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ฯ ครั้งนี้ ได้แก่ การเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี การหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล การทรงเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ของประเทศไทยกับบรูไน ฯ และการทรงเข้าร่วมงานถวายเลี้ยงพระกระยาหารกลางวัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพ
ในช่วงการหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีและสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ฯ เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๗ ผู้นำทั้งสองต่างเห็นพ้องว่า การเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ฯ ครั้งนี้ และการเยือนบรูไน ฯ อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๑ - ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๖ มีความสำคัญยิ่งต่อการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ ๔๐ ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศในปี ๒๕๖๗
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ฯ ทรงขอบคุณการต้อนรับอย่างอบอุ่นของรัฐบาลไทย และผู้นำของสองประเทศได้แสดงความมุ่งมั่นในการกระชับความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ผ่านการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ และการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึงคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี ในระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่บรูไน ฯ จะเป็นเจ้าภาพครั้งที่ ๒ ในปี ๒๕๖๗
ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การค้า การลงทุน ความมั่นคงด้านอาหารและความร่วมมือฮาลาล การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงความร่วมมือด้านการศึกษา พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และความสัมพันธ์ในระดับประชาชน นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้หารือกันเกี่ยวกับประเด็นระหว่างประเทศที่มีความสนใจร่วมกัน อาทิ ความร่วมมือในกรอบอาเซียน สถานการณ์ในเมียนมา ทะเลจีนใต้ ตะวันออกกลาง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้รับรองถ้อยแถลงข่าวร่วมเพื่อเผยแพร่สาระสำคัญจากการหารือด้วย
ภายหลังจากการหารือทวิภาคี ผู้นำทั้งสองได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามของบันทึกความเข้าใจ ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) บันทึกความเข้าใจระหว่างกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของไทยและสำนักงานการลงทุนบรูไนฯ (๒) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงทรัพยากรพื้นฐานและการท่องเที่ยวแห่งบรูไนดารุสซาลาม
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ