เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนฝรั่งเศสเพื่อนำคณะธุรกิจไทยเข้าร่วมงาน Thailand ? France Business Forum เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ตามที่นายกรัฐมนตรีและนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้มีดำริร่วมกัน ในโอกาสนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมคณะด้วย
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปาฐกถาเน้นย้ำศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและโอกาสทางธุรกิจสำหรับภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย ในขณะเดียวกัน ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนชาวต่างชาติในประเทศไทย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้แสดงวิสัยทัศน์ โดยมีเป้าหมาย ๒ ประการ ได้แก่ (๑) การยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมระดับโลก และ (๒) การมุ่งสู่ความยั่งยืนตามคำมั่นที่ไทยให้ไว้กับนานาประเทศ
ในโอกาสเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนาย Franck Riester รัฐมนตรีด้านการค้าต่างประเทศฝรั่งเศส เป็นประธานร่วมในการประชุม (Business Roundtable) กับภาคเอกชนไทยและฝรั่งเศสในสาขาหลัก ๕ สาขา ได้แก่ พลังงานและการคมนาคมขนส่ง อวกาศ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ อาหาร และธุรกิจบริการโรงแรม โดยเอกชนสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลแผนธุรกิจ ปัญหาและข้อเสนอเพื่อภาครัฐพิจารณาส่งเสริมและผลักดันต่อไป นอกจากนี้ ภาคเอกชนทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนมุมมองทางธุรกิจและสร้างเครือข่ายความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน และได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายด้วย
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เข้าพบหารือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน ณ ทำเนียบประธานาธิบดี มุ่งเน้นต่อยอดความร่วมมือที่เป็นผลจากการเยือนฝรั่งเศสของนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้แก่ การค้าการลงทุน ความมั่นคงและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การขนส่ง สิ่งแวดล้อม อาหาร พลังงานสะอาด ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีอวกาศ ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อสถานการณ์ระดับโลกและภูมิภาค นายกรัฐมนตรียังได้หยิบยกเรื่องการเจรจาความตกลงการค้าเสรี ไทย-สหภาพยุโรป การยกเว้นการตรวจลงตราเข้าเขตเชงเกนสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัด Thailand - France Business Forum ครั้งที่ ๒ ที่ประเทศไทย ในเดือนกันยายน ๒๕๖๗ ด้วย โดยมีนักธุรกิจฝรั่งเศสร่วมเดินทางมาด้วยในการเยือนครั้งนี้
อนึ่ง ไทยและฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ที่ใกล้ชิดและยาวนานกว่า ๓ ศตวรรษ โดยปี ๒๕๖๘ จะครบรอบ ๓๔๐ ปีของการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างสยามกับฝรั่งเศส และในปี ๒๕๖๙ จะครบรอบ ๑๗๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ