เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) อย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สปป. ลาว
ในการพบหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สปป. ลาว ทั้งสองฝ่ายย้ำความมุ่งมั่นที่จะสานต่อความสัมพันธ์ไทย - สปป. ลาว ในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งได้ใช้โอกาสนี้ติดตามความคืบหน้าของประเด็นต่าง ๆ ที่นายกรัฐมนตรีสองฝ่ายได้หารือกันในช่วงการเยือน สปป. ลาว อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๖
ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนระดับสูงของไทยและ สปป. ลาว อย่างสม่ำเสมอและมุ่งที่จะสานต่อการมีปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและต่อเนื่อง รวมถึงการเตรียมการจัดการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สปป. ลาว ซึ่งจะครบรอบ 75 ปี ในปีหน้า
ในด้านการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อความคืบหน้าของหลายโครงการ โดยเฉพาะการลงนามความตกลงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินระหว่างสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือ สพพ. (NEDA) กับกระทรวงการเงิน สปป. ลาว เพื่อปรับปรุงเส้นทาง R12 ใน สปป. ลาว ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่งสำคัญระหว่างไทย สปป. ลาว และ เวียดนาม ซึ่งเริ่มต้นจากชายแดนไทย-ลาว ที่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ถึงด่านชายแดนนาเพ้า-จาลอ ระหว่าง สปป. ลาว กับเวียดนาม
ทั้งสองฝ่ายคาดหวังที่จะเห็นการเริ่มเดินรถไฟข้ามแดนจากจังหวัดหนองคายต่อจากสถานีท่านาแล้ง ไปถึงสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยและ สปป. ลาว ได้เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถเริ่มเดินรถไฟถึงสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ได้ในเดือนมิถุนายนนี้
รัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับบทบาทของภาคธุรกิจในการพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งระหว่างสองประเทศ รวมถึงการพัฒนาและบริหารจัดการท่าบกและศูนย์กระจายสินค้าบริเวณชายแดนไทย-ลาว และในเส้นทางการคมนาคมขนส่งสำคัญ ซึ่งจะช่วยดึงดูดการลงทุนและกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจท้องถิ่นใน สปป. ลาว ด้วย
ด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุนปีแห่งการท่องเที่ยวลาว (Visit Laos Year 2024) และแนวคิด ?Six Countries, One Destination? เพื่อส่งเสริมให้ประเทศในภูมิภาคเป็นจุดหมายแห่งการท่องเที่ยวเดียวกัน
ในด้านการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศย้ำความมุ่งมั่นของไทยที่จะร่วมมือกับ สปป. ลาว อย่างใกล้ชิดเพื่อเพิ่มพูนขีดความสามารถของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการดับไฟป่าและการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีเพื่อลดการเผาเพื่อการทำเกษตร
ในด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ฝ่ายไทยแสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการเพื่อการพัฒนาทางเลือก (Alternative Development) ของ UNODC เพื่อจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมและการทดลองด้านกาแฟเพื่อให้เป็นพืชทดแทนการปลูกฝิ่นในแขวงหัวพันของ สปป. ลาว ซึ่งจะช่วยสร้างงานและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่
ทั้งสองฝ่ายใช้โอกาสนี้ในการหารือความร่วมมือในกรอบอาเซียน ซึ่งฝ่ายไทยย้ำความพร้อมในการสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของ สปป. ลาว และพร้อมทำงานร่วมกับฝ่ายลาวอย่างใกล้ชิดในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศ รวมถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในเมียนมา
ในระหว่างการเยือน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าเยี่ยมคารวะนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว และได้พบปะกับกลุ่มนักธุรกิจไทยใน สปป. ลาว เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับ สปป. ลาว ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นด้วย
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ