ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับสันติภาพในยูเครน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday June 19, 2024 14:10 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๑๕ -๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๗ นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับสันติภาพในยูเครน ณ สมาพันธรัฐสวิส ตามคำเชิญของนางสาววิโอลา อัมแฮร์ท ประธานาธิบดีแห่งสมาพันธรัฐสวิส โดยการประชุมมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการหารือที่จะนำไปสู่ความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับสันติภาพในยูเครน

ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมในช่วงการประชุมกลุ่มย่อยด้านความมั่นคงทางอาหารและเสรีภาพในการเดินเรือ เน้นย้ำถึงความเปราะบางของระบบอาหารโลกและความจำเป็นอย่างยิ่งของการมีสันติภาพเพื่อรับประกันความมั่นคงทางอาหารทั่วทั้งโลก บทบาทสำคัญของไทยและยูเครนในการเป็น ?ครัวโลก? ในฐานะผู้ส่งออกอาหารหลัก รวมถึงความสำคัญของการมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการรักษาความมั่นคงทางอาหารโลก และนอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำว่าไทยสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อข้อริเริ่มทั้งหลายที่มีส่วนช่วยในการรักษาความมั่นคงทางอาหารโลก อาทิ ข้อริเริ่มว่าด้วยการขนส่งธัญพืชในพื้นที่ทะเลดำ รวมทั้งความพยายามต่าง ๆ ในการรื้อฟื้นข้อริเริ่มดังกล่าว พร้อมกล่าวถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนเพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบระยะยาวที่มีต่อภาคการเกษตรของยูเครนและเพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคงทางอาหารของยูเครน

ผู้ช่วยรัฐมนตรี ฯ ยังใช้โอกาสการเข้าประชุมครั้งนี้ หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกี ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหราชอาณาจักร และอธิบดีกรมกิจการการเมืองเนเธอร์แลนด์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีและขอรับการสนับสนุนการสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (HRC) ของไทย วาระปี ค.ศ. ๒๐๒๕ - ๒๐๒๗ และการสมัครเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ของไทย ทั้งยังได้พบปะกับผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ อาทิ เยอรมนี คอซอวอ สิงคโปร์อินเดีย ลิกเตนไสตน์ นิวซีแลนด์ โรมาเนีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ และสวิตเซอร์แลนด์

อนึ่ง การเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนของไทยต่อการแสวงหาแนวทางเพื่อยุติความขัดแย้งโดยเร็วและการดำเนินการอย่างต่อเนื่องของไทยเพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบในเรื่องความมั่นคงทางอาหารและการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ