กรุงเทพ--6 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2551 นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “Thailand and the Emerging Asia” ณ London School of Economics and Political Science (LSE) ซึ่งได้กล่าวถึง การกลับมามีบทบาทในเวทีโลกอีกครั้งหนึ่งของเอเชียและความคาดหวังในอนาคต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของเอเชียและอนุภูมิภาคเอเชียต่างๆ ทั้งจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่เอเชียใต้ และจากเอเชียกลางสู่เอเชียตะวันตกส่งผล ให้ทวีปเอเชียกลับมามีบทบาทอีกครั้งหนึ่งในฐานะศูนย์กลางความเจริญทางด้านเศรษฐกิจของโลก นอกจากเอเชียจะเป็นผู้ผลิตและมีน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลกแล้ว ภูมิภาคนี้ยังเป็นผู้ส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์อาหารที่ใหญ่ที่สุด รัฐมนตรีว่าการฯ เชื่อมั่นว่าการกลับมามีบทบาทสำคัญของเอเชียจะเป็นผลดีต่อการส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์และการติดต่อสัมพันธ์กับประชาคมระหว่างประเทศ
ประเทศไทยซึ่งกลับคืนสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยพร้อมที่จะสนับสนุนการกลับมามีบทบาทอีกครั้งของเอเชียในครั้งนี้ด้วยระบบเศรษฐกิจเปิด การแข่งขันเสรีและการเอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจ การที่ไทยตั้งอยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังทำให้ประเทศเป็นศูนย์กลางในการของกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในการทำหน้าที่ประธานอาเซียนของไทยในเดือนกรกฏาคม ศกนี้ ไทยมีความพยายามให้อาเซียนเป็นองค์กรที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตลอดจนมีระเบียบกติกา และประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งมีความร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศมากขึ้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้กล่าวถึงการเอาชนะความท้าทายต่างๆ อาทิ ภัยพิบัติทางธรรมชาติจากพายุไซโคลนนากีสที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงกับพม่า ความท้าทายเรื่องความมั่นคงด้านอาหาร และความมั่นคงด้านพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเรียกร้องให้เอเชียและยุโรปร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในฐานะหุ้นส่วนความร่วมมือในการเอาชนะความท้าทายเหล่านี้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2551 นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “Thailand and the Emerging Asia” ณ London School of Economics and Political Science (LSE) ซึ่งได้กล่าวถึง การกลับมามีบทบาทในเวทีโลกอีกครั้งหนึ่งของเอเชียและความคาดหวังในอนาคต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของเอเชียและอนุภูมิภาคเอเชียต่างๆ ทั้งจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่เอเชียใต้ และจากเอเชียกลางสู่เอเชียตะวันตกส่งผล ให้ทวีปเอเชียกลับมามีบทบาทอีกครั้งหนึ่งในฐานะศูนย์กลางความเจริญทางด้านเศรษฐกิจของโลก นอกจากเอเชียจะเป็นผู้ผลิตและมีน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลกแล้ว ภูมิภาคนี้ยังเป็นผู้ส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์อาหารที่ใหญ่ที่สุด รัฐมนตรีว่าการฯ เชื่อมั่นว่าการกลับมามีบทบาทสำคัญของเอเชียจะเป็นผลดีต่อการส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์และการติดต่อสัมพันธ์กับประชาคมระหว่างประเทศ
ประเทศไทยซึ่งกลับคืนสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยพร้อมที่จะสนับสนุนการกลับมามีบทบาทอีกครั้งของเอเชียในครั้งนี้ด้วยระบบเศรษฐกิจเปิด การแข่งขันเสรีและการเอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจ การที่ไทยตั้งอยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังทำให้ประเทศเป็นศูนย์กลางในการของกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในการทำหน้าที่ประธานอาเซียนของไทยในเดือนกรกฏาคม ศกนี้ ไทยมีความพยายามให้อาเซียนเป็นองค์กรที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตลอดจนมีระเบียบกติกา และประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งมีความร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศมากขึ้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้กล่าวถึงการเอาชนะความท้าทายต่างๆ อาทิ ภัยพิบัติทางธรรมชาติจากพายุไซโคลนนากีสที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงกับพม่า ความท้าทายเรื่องความมั่นคงด้านอาหาร และความมั่นคงด้านพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเรียกร้องให้เอเชียและยุโรปร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในฐานะหุ้นส่วนความร่วมมือในการเอาชนะความท้าทายเหล่านี้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-