กรุงเทพ--24 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2551 นายปิยวัชร นิยมฤกษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้นำคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เข้าเยี่ยมคารวะนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในโอกาสที่ได้เดินทางเยือนประเทศไทย คณะดังกล่าวประกอบด้วย เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ เอกอัครราชทูตบอสเนีย เอกอัครราชทูตสวาซิแลนด์ เอกอัครราชทูตกินี อุปทูตแอลเบเนีย อุปทูตฟิจิ อุปทูตมอริเชียส และอุปทูตนามิเบีย
นาย Eugene Hutchinson เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ ในฐานะผู้แทนของคณะ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ได้เปิดโอกาสให้เข้าเยี่ยมคารวะในครั้งนี้ และว่า การเดินทางเยือนประเทศไทยในครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่ให้คณะได้รู้จักประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า การพบปะกันในครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้หารือกับคณะทูตานุทูตถิ่นพำนักในมาเลเซีย
ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวยืนยันว่าการชุมนุมในประเทศไทยจะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพการเมืองของไทย ทั้งนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหารประเทศและให้ประชาชนมีความเข้าใจถึงข้อเท็จจริงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ในส่วนของสถานการณ์ในพม่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงนโยบายของไทยในการสนับสนุนแผนการดำเนินการเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการเป็นประชาธิปไตยและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในพม่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ให้ความช่วยเหลือพม่าภายหลังเหตถุการณ์พายุไซโคลนนาร์กิส นอกจากนี้ไทยหวังที่จะให้รัฐบาลพม่ามีความยืดหยุ่นและเปิดกว้างมากขึ้นในการรับความช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศ
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้กล่าวถึงนโยบายของไทยต่ออาเซียน เนื่องจากไทยจะเข้ารับตำแหน่งประธานอาเซียน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 เป็นต้นไป ไทยหวังว่าอาเซียนจะเป็นองค์กรที่มีกฎระเบียบ ประสิทธิภาพ และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ในแผนการระยะยาวนั้น ได้มีแผนการจัดตั้งประชาคมอาเซียน ภายในปี 2558
สำหรับความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซียนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านถือเป็นหลักสำคัญของนโยบายการต่างประเทศของไทย ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับมาเลเซีย โดยเฉพาะความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียยังมีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศไทย อันแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้หารือกับคณะในประเด็นต่างๆ ได้แก่ ประเด็นข้าว การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ และความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังขอรับการสนับสนุนต่อการที่ไทยจะสมัครเข้ารับเลือกตั้งในตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วาระปี 2560-2561 ของไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2551 นายปิยวัชร นิยมฤกษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้นำคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เข้าเยี่ยมคารวะนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในโอกาสที่ได้เดินทางเยือนประเทศไทย คณะดังกล่าวประกอบด้วย เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ เอกอัครราชทูตบอสเนีย เอกอัครราชทูตสวาซิแลนด์ เอกอัครราชทูตกินี อุปทูตแอลเบเนีย อุปทูตฟิจิ อุปทูตมอริเชียส และอุปทูตนามิเบีย
นาย Eugene Hutchinson เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ ในฐานะผู้แทนของคณะ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ได้เปิดโอกาสให้เข้าเยี่ยมคารวะในครั้งนี้ และว่า การเดินทางเยือนประเทศไทยในครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่ให้คณะได้รู้จักประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า การพบปะกันในครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้หารือกับคณะทูตานุทูตถิ่นพำนักในมาเลเซีย
ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวยืนยันว่าการชุมนุมในประเทศไทยจะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพการเมืองของไทย ทั้งนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหารประเทศและให้ประชาชนมีความเข้าใจถึงข้อเท็จจริงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ในส่วนของสถานการณ์ในพม่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงนโยบายของไทยในการสนับสนุนแผนการดำเนินการเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการเป็นประชาธิปไตยและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในพม่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ให้ความช่วยเหลือพม่าภายหลังเหตถุการณ์พายุไซโคลนนาร์กิส นอกจากนี้ไทยหวังที่จะให้รัฐบาลพม่ามีความยืดหยุ่นและเปิดกว้างมากขึ้นในการรับความช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศ
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้กล่าวถึงนโยบายของไทยต่ออาเซียน เนื่องจากไทยจะเข้ารับตำแหน่งประธานอาเซียน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 เป็นต้นไป ไทยหวังว่าอาเซียนจะเป็นองค์กรที่มีกฎระเบียบ ประสิทธิภาพ และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ในแผนการระยะยาวนั้น ได้มีแผนการจัดตั้งประชาคมอาเซียน ภายในปี 2558
สำหรับความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซียนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านถือเป็นหลักสำคัญของนโยบายการต่างประเทศของไทย ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับมาเลเซีย โดยเฉพาะความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียยังมีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศไทย อันแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้หารือกับคณะในประเด็นต่างๆ ได้แก่ ประเด็นข้าว การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ และความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังขอรับการสนับสนุนต่อการที่ไทยจะสมัครเข้ารับเลือกตั้งในตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วาระปี 2560-2561 ของไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-