กรุงเทพ--30 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีมีกำหนดจะเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีจีน ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2551 โดยเยือนกรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2551 และเยือนนครกวางโจว ระหว่างวันที่ 2 - 3 กรกฎาคม 2551 เพื่อแนะนำตัวในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่ง สานต่อความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับจีน และยืนยันความต่อเนื่องด้านนโยบายของไทยต่อจีน นอกจากนี้ เพื่อใช้โอกาสที่ทั้งจีนและไทยกำลังมีบทบาทในเวทีระหว่างประเทศให้เป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย - จีนในอนาคต (จีนกำลังเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาโอลิมปิกในเดือนสิงหาคม ส่วนไทยกำลังจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในเดือนกรกฎาคม) ทั้งนี้ จีนจะเป็นประเทศแรกนอกกลุ่มประเทศอาเซียนที่นายกรัฐมนตรีไปเยือน และนายกรัฐมนตรีไทยจะเป็นแขกทางการคนแรกของนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวน
ภารกิจสำคัญของนายกรัฐมนตรีในระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่งประกอบด้วยการหารือข้อราชการกับนายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีน นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน และนายหลิว ฉี ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกจีนและการเยี่ยมชมสถานที่เปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะพบปะและมอบนโยบายแก่หัวหน้าสำนักงานส่วนราชการไทยในจีน รวมทั้งคนไทยในกรุงปักกิ่ง สำหรับที่นครกวางโจว นายกรัฐมนตรีจะหารือกับผู้ว่าราชการมณฑลกวางตุ้งในเรื่องการค้าการลงทุนของไทยในมณฑลกวางตุ้ง เนื่องจากมณฑลกวางตุ้งมีความสัมพันธ์กับไทยในระดับประชาชน (ญาติพี่น้องและบรรพบุรุษ) และการค้า โดยมณฑลกวางตุ้งเป็นแหล่งลงทุนและการค้าแห่งแรกๆ ของไทยในจีน ประกอบกับปัจจุบันการส่งออกผัก ผลไม้ไทยจะต้องผ่านมณฑลกวางตุ้งก่อนจะกระจายไปสู่มณฑลต่างๆ ของจีน
สำหรับการเยือนครั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่หารือกับผู้นำจีนจะเป็นเรื่องการกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรที่แน่นแฟ้นเสมอมา ซึ่งรวมถึงการเยือนในระดับพระราชวงศ์ การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้นำทางการเมืองของทั้งสองฝ่าย การยกระดับสำนักงานกงสุล และการแสดงความเข้าใจและเห็นใจจีนในประเด็นที่ละเอียดอ่อนต่างๆ สำหรับความร่วมมือไทย-จีนในปัจจุบันอยู่ภายใต้กรอบของแผนปฏิบัติการร่วมไทย-จีน (Joint Action Plan) ซึ่งมีความร่วมมือครอบคลุมทุกด้านจำนวน 15 สาขา ในระยะเวลา 5 ปี (2550-2554) และภายใต้กรอบความร่วมมือนี้ ไทยและจีนสามารถที่จะขยายความร่วมมือในการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม ทั้งทางรถไฟซึ่งเชื่อมจากจีนผ่านลาวและไทยไปถึงพม่าได้ของหลายประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และเส้นทางการท่องเที่ยวในประเทศเหล่านี้ด้วย นอกจากนี้ จะมีการหารือในเรื่องการจัดหาปุ๋ยให้เกษตรกรไทย และการขยายตลาดสินค้าเกษตรของไทยในจีน โดยเฉพาะมณฑลกวางตุ้งอีกด้วย
ประเทศไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมีการพัฒนาที่ดีอย่างต่อเนื่อง และเป็นตัวอย่างที่ดีของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศอื่นๆ ทั้งในด้านการเมือง ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีความไว้ใจซึ่งกันและกัน สำหรับด้านเศรษฐกิจ ได้พัฒนาความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ต่อกันมาโดยตลอด มูลค่าการค้า/การลงทุนระหว่างไทยและจีนมีปริมาณการเติบโตที่สูงและมีศักยภาพที่จะพัฒนาขึ้นไปอีกมาก โดยในปี 2550 การค้าของสองฝ่ายมีมูลค่า 31,062 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากปี 2549) ขณะที่การลงทุนของจีนในไทยมีมูลค่า 495 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้น 6 เท่าตัวจากปี 2549) ส่วนการลงทุนของไทยในจีนมีมูลค่า 89.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงร้อยละ 39 จากปี 2549) ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและจีนได้ร่วมกันตั้งเป้าหมายให้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2553
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีมีกำหนดจะเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีจีน ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2551 โดยเยือนกรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2551 และเยือนนครกวางโจว ระหว่างวันที่ 2 - 3 กรกฎาคม 2551 เพื่อแนะนำตัวในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่ง สานต่อความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับจีน และยืนยันความต่อเนื่องด้านนโยบายของไทยต่อจีน นอกจากนี้ เพื่อใช้โอกาสที่ทั้งจีนและไทยกำลังมีบทบาทในเวทีระหว่างประเทศให้เป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย - จีนในอนาคต (จีนกำลังเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาโอลิมปิกในเดือนสิงหาคม ส่วนไทยกำลังจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในเดือนกรกฎาคม) ทั้งนี้ จีนจะเป็นประเทศแรกนอกกลุ่มประเทศอาเซียนที่นายกรัฐมนตรีไปเยือน และนายกรัฐมนตรีไทยจะเป็นแขกทางการคนแรกของนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวน
ภารกิจสำคัญของนายกรัฐมนตรีในระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่งประกอบด้วยการหารือข้อราชการกับนายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีน นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน และนายหลิว ฉี ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกจีนและการเยี่ยมชมสถานที่เปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะพบปะและมอบนโยบายแก่หัวหน้าสำนักงานส่วนราชการไทยในจีน รวมทั้งคนไทยในกรุงปักกิ่ง สำหรับที่นครกวางโจว นายกรัฐมนตรีจะหารือกับผู้ว่าราชการมณฑลกวางตุ้งในเรื่องการค้าการลงทุนของไทยในมณฑลกวางตุ้ง เนื่องจากมณฑลกวางตุ้งมีความสัมพันธ์กับไทยในระดับประชาชน (ญาติพี่น้องและบรรพบุรุษ) และการค้า โดยมณฑลกวางตุ้งเป็นแหล่งลงทุนและการค้าแห่งแรกๆ ของไทยในจีน ประกอบกับปัจจุบันการส่งออกผัก ผลไม้ไทยจะต้องผ่านมณฑลกวางตุ้งก่อนจะกระจายไปสู่มณฑลต่างๆ ของจีน
สำหรับการเยือนครั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่หารือกับผู้นำจีนจะเป็นเรื่องการกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรที่แน่นแฟ้นเสมอมา ซึ่งรวมถึงการเยือนในระดับพระราชวงศ์ การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้นำทางการเมืองของทั้งสองฝ่าย การยกระดับสำนักงานกงสุล และการแสดงความเข้าใจและเห็นใจจีนในประเด็นที่ละเอียดอ่อนต่างๆ สำหรับความร่วมมือไทย-จีนในปัจจุบันอยู่ภายใต้กรอบของแผนปฏิบัติการร่วมไทย-จีน (Joint Action Plan) ซึ่งมีความร่วมมือครอบคลุมทุกด้านจำนวน 15 สาขา ในระยะเวลา 5 ปี (2550-2554) และภายใต้กรอบความร่วมมือนี้ ไทยและจีนสามารถที่จะขยายความร่วมมือในการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม ทั้งทางรถไฟซึ่งเชื่อมจากจีนผ่านลาวและไทยไปถึงพม่าได้ของหลายประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และเส้นทางการท่องเที่ยวในประเทศเหล่านี้ด้วย นอกจากนี้ จะมีการหารือในเรื่องการจัดหาปุ๋ยให้เกษตรกรไทย และการขยายตลาดสินค้าเกษตรของไทยในจีน โดยเฉพาะมณฑลกวางตุ้งอีกด้วย
ประเทศไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมีการพัฒนาที่ดีอย่างต่อเนื่อง และเป็นตัวอย่างที่ดีของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศอื่นๆ ทั้งในด้านการเมือง ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีความไว้ใจซึ่งกันและกัน สำหรับด้านเศรษฐกิจ ได้พัฒนาความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ต่อกันมาโดยตลอด มูลค่าการค้า/การลงทุนระหว่างไทยและจีนมีปริมาณการเติบโตที่สูงและมีศักยภาพที่จะพัฒนาขึ้นไปอีกมาก โดยในปี 2550 การค้าของสองฝ่ายมีมูลค่า 31,062 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากปี 2549) ขณะที่การลงทุนของจีนในไทยมีมูลค่า 495 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้น 6 เท่าตัวจากปี 2549) ส่วนการลงทุนของไทยในจีนมีมูลค่า 89.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงร้อยละ 39 จากปี 2549) ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและจีนได้ร่วมกันตั้งเป้าหมายให้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2553
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-