กรุงเทพ--18 ส.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2551 คณะของสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในความอุปถัมภ์ของจุฬาราชมนตรี ประกอบด้วย อิหม่ามสนิท เอี่ยมฤทธิ์ นายกสมาคมฯ นายสมาน ก้อพิทักษ์ เลขาธิการสมาคมฯ กับกรรมการชาวไทยผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านที่กำลังจะไปร่วมเป็นผู้ตัดสินการแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศ ครั้งที่ 50 ณ ประเทศมาเลเซีย นักกอรี (ผู้อ่านคัมภีร์ชาย) จากกรุงเทพมหานคร และกอรีอะห์ (ผู้อ่านคัมภีร์หญิง) จากจังหวัดยะลา ซึ่งจะเป็นตัวแทนประเทศไทยที่จะเข้าร่วมการแข่งขันที่มาเลเซียครั้งดังกล่าว รวมทั้งผู้ฝึกสอนของสมาคมฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอบคุณที่กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตสถานกงสุลไทยในต่างแดนได้สนับสนุนกิจการของสมาคมฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกไปแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศในนามประเทศไทยมาโดยตลอด และเพื่อขอกำลังใจในการเดินทางไปร่วมแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศ ครั้งที่ 50 ที่กำลังจะจัดขึ้น ณ รัฐตรังกานู มาเลเซีย ระหว่างวันที่ 18 — 27 สิงหาคม 2551
นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จที่ผ่านมาของสมาคมฯ ในการส่งนักกอรีเข้าร่วมการแข่งขันและได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้วหลายครั้ง อันเป็นการเผยแพร่เกียรติคุณของนักกอรีไทยให้นานาประเทศโดยเฉพาะในโลกมุสลิมได้รับรู้ และกล่าวว่า เป็นที่น่าภูมิใจที่ประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกของศาสนิกชนชาวไทยทุกศาสนา การเดินทางไปแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์และดีงาม มิใช่เพียงเป็นการอ่านหรือท่องบทกลอนธรรมดา เนื่องจากผู้อ่านจะอ่านด้วยความเคารพในความศักดิ์สิทธิ์ของคัมภีร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถึงจุฬาราชมนตรีคนแรกของไทย ซึ่งเป็นต้นตระกูลบุนนาคด้วย และได้ย้ำถึงสายสัมพันธ์อันแนบแน่นฉันเครือญาติพี่น้อง ที่คนไทยไม่ว่านับถือศาสนาใดมีให้แก่กันและกัน กับได้อวยพรให้ทีมนักกอรีไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันที่มาเลเซีย ในโอกาสนี้ สมาคมฯ ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณและช่อดอกไม้แก่กระทรวงการต่างประเทศเพื่อเป็นการขอบคุณ และได้กล่าวดุอาอ์ (ขอพรพระผู้เป็นเจ้า) เพื่อความเป็นศิริมงคลด้วย
สมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในความอุปถัมภ์ของจุฬาราชมนตรี ได้ส่งทีมนักกอรีไทยเข้าร่วมแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านในต่างประเทศมาหลายปีติดต่อกัน และได้ทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทย โดยได้รับรางวัลชนะเลิศและรางวัลอื่นๆ จากการแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านในประเทศต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานและคุณวุฒิทางวิชาการของนักกอรีและผู้เชี่ยวชาญด้านกอรีไทยมุสลิมอันเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ทั้งยังแสดงด้วยว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่มีเสรีภาพ และเปิดกว้างในการนับถือศาสนา
โดยที่กิจกรรมของสมาคมฯ ส่งผลดีต่อชื่อเสียงของประเทศ สมควรได้รับกำลังใจเช่นเดียวกับผู้เข้าแข่งขันในนามประเทศไทยบนเวทีโลกประเภทอื่นๆ กระทรวงการต่างประเทศจึงเห็นว่าควรช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมฯ ในฐานะองค์กรมุสลิมไทยที่มีบทบาทในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยในต่างแดน รวมทั้งเพื่อเป็นการช่วยสร้างความเข้าใจที่ดีระหว่างชาวไทยศาสนาต่างๆ ที่สามารถภาคภูมิใจร่วมกันในเกียรติยศที่ประเทศไทยได้รับด้วย ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ให้การสนับสนุนสมาคมฯ ในการเดินทางไปร่วมการแข่งขันและการทดสอบกอรีนานาชาติหลายครั้งที่จัดขึ้นในมาเลเซีย อิหร่าน อินโดนีเซีย เป็นต้น นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศยังได้เป็นองค์กรหนึ่งที่สนับสนุนถ้วยรางวัล (ในนามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) ในกิจกรรมการแข่งขันทางวิชาการที่สมาคมฯ จัดขึ้นทุกปีในงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทยด้วย
ทีมนักกอรีและกอรีอะห์ตัวแทนประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) และกระทรวงวัฒนธรรม (กรมการศาสนา) กำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกอรีนานาชาติครั้งที่ 50 ณ รัฐตรังกานู ระหว่างวันที่ 18 — 27 สิงหาคม 2551 โดยสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียจะเสด็จฯ ทรงเป็นประธานในงานดังกล่าวด้วยพระองค์เอง และสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองโกตาบารูได้รับมอบหมายให้ดูแลและให้กำลังใจคณะในระหว่างการแข่งขันครั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศเชื่อมั่นว่า ทีมนักกอรีและกอรีอะห์ไทยจะประสบความสำเร็จในการนำชื่อเสียงและความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศชาติอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2551 คณะของสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในความอุปถัมภ์ของจุฬาราชมนตรี ประกอบด้วย อิหม่ามสนิท เอี่ยมฤทธิ์ นายกสมาคมฯ นายสมาน ก้อพิทักษ์ เลขาธิการสมาคมฯ กับกรรมการชาวไทยผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านที่กำลังจะไปร่วมเป็นผู้ตัดสินการแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศ ครั้งที่ 50 ณ ประเทศมาเลเซีย นักกอรี (ผู้อ่านคัมภีร์ชาย) จากกรุงเทพมหานคร และกอรีอะห์ (ผู้อ่านคัมภีร์หญิง) จากจังหวัดยะลา ซึ่งจะเป็นตัวแทนประเทศไทยที่จะเข้าร่วมการแข่งขันที่มาเลเซียครั้งดังกล่าว รวมทั้งผู้ฝึกสอนของสมาคมฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอบคุณที่กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตสถานกงสุลไทยในต่างแดนได้สนับสนุนกิจการของสมาคมฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกไปแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศในนามประเทศไทยมาโดยตลอด และเพื่อขอกำลังใจในการเดินทางไปร่วมแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศ ครั้งที่ 50 ที่กำลังจะจัดขึ้น ณ รัฐตรังกานู มาเลเซีย ระหว่างวันที่ 18 — 27 สิงหาคม 2551
นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จที่ผ่านมาของสมาคมฯ ในการส่งนักกอรีเข้าร่วมการแข่งขันและได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้วหลายครั้ง อันเป็นการเผยแพร่เกียรติคุณของนักกอรีไทยให้นานาประเทศโดยเฉพาะในโลกมุสลิมได้รับรู้ และกล่าวว่า เป็นที่น่าภูมิใจที่ประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกของศาสนิกชนชาวไทยทุกศาสนา การเดินทางไปแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์และดีงาม มิใช่เพียงเป็นการอ่านหรือท่องบทกลอนธรรมดา เนื่องจากผู้อ่านจะอ่านด้วยความเคารพในความศักดิ์สิทธิ์ของคัมภีร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถึงจุฬาราชมนตรีคนแรกของไทย ซึ่งเป็นต้นตระกูลบุนนาคด้วย และได้ย้ำถึงสายสัมพันธ์อันแนบแน่นฉันเครือญาติพี่น้อง ที่คนไทยไม่ว่านับถือศาสนาใดมีให้แก่กันและกัน กับได้อวยพรให้ทีมนักกอรีไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันที่มาเลเซีย ในโอกาสนี้ สมาคมฯ ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณและช่อดอกไม้แก่กระทรวงการต่างประเทศเพื่อเป็นการขอบคุณ และได้กล่าวดุอาอ์ (ขอพรพระผู้เป็นเจ้า) เพื่อความเป็นศิริมงคลด้วย
สมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในความอุปถัมภ์ของจุฬาราชมนตรี ได้ส่งทีมนักกอรีไทยเข้าร่วมแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านในต่างประเทศมาหลายปีติดต่อกัน และได้ทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทย โดยได้รับรางวัลชนะเลิศและรางวัลอื่นๆ จากการแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านในประเทศต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานและคุณวุฒิทางวิชาการของนักกอรีและผู้เชี่ยวชาญด้านกอรีไทยมุสลิมอันเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ทั้งยังแสดงด้วยว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่มีเสรีภาพ และเปิดกว้างในการนับถือศาสนา
โดยที่กิจกรรมของสมาคมฯ ส่งผลดีต่อชื่อเสียงของประเทศ สมควรได้รับกำลังใจเช่นเดียวกับผู้เข้าแข่งขันในนามประเทศไทยบนเวทีโลกประเภทอื่นๆ กระทรวงการต่างประเทศจึงเห็นว่าควรช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมฯ ในฐานะองค์กรมุสลิมไทยที่มีบทบาทในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยในต่างแดน รวมทั้งเพื่อเป็นการช่วยสร้างความเข้าใจที่ดีระหว่างชาวไทยศาสนาต่างๆ ที่สามารถภาคภูมิใจร่วมกันในเกียรติยศที่ประเทศไทยได้รับด้วย ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ให้การสนับสนุนสมาคมฯ ในการเดินทางไปร่วมการแข่งขันและการทดสอบกอรีนานาชาติหลายครั้งที่จัดขึ้นในมาเลเซีย อิหร่าน อินโดนีเซีย เป็นต้น นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศยังได้เป็นองค์กรหนึ่งที่สนับสนุนถ้วยรางวัล (ในนามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) ในกิจกรรมการแข่งขันทางวิชาการที่สมาคมฯ จัดขึ้นทุกปีในงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทยด้วย
ทีมนักกอรีและกอรีอะห์ตัวแทนประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) และกระทรวงวัฒนธรรม (กรมการศาสนา) กำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกอรีนานาชาติครั้งที่ 50 ณ รัฐตรังกานู ระหว่างวันที่ 18 — 27 สิงหาคม 2551 โดยสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียจะเสด็จฯ ทรงเป็นประธานในงานดังกล่าวด้วยพระองค์เอง และสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองโกตาบารูได้รับมอบหมายให้ดูแลและให้กำลังใจคณะในระหว่างการแข่งขันครั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศเชื่อมั่นว่า ทีมนักกอรีและกอรีอะห์ไทยจะประสบความสำเร็จในการนำชื่อเสียงและความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศชาติอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-