กรุงเทพ--22 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2551 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงค์ลี รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางมารับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่กระทรวงการต่างประเทศ
ภายหลังจากการประชุม รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการเจรจาทวิภาคีกับกัมพูชาในเรื่องปัญหาเขตแดนระหว่างสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจและต้องการดำเนินการให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นไปด้วยดี อย่างไรก็ตาม โดยที่ขณะนี้ยังไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทำให้งานขาดช่วงเล็กน้อย ในฐานะที่ตนปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีก็พร้อมที่จะสานต่อการดำเนินความสัมพันธ์อันดีต่อไป จึงได้เดินทางมาหารือกับกระทรวงฯ ในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ขอยืนยันถึงความพร้อมของไทยที่จะแก้ไขปัญหาในกรอบทวิภาคีตามหลักการเดิม และตนพร้อมที่จะร่วมมือในการเจรจาระดับนายกรัฐมนตรีด้วย
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยและกัมพูชาจะมีการหารือกันที่นครนิวยอร์ก ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (IAMM) ในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก ซึ่งฝ่ายไทยจะแจ้งฝ่ายกัมพูชาว่าทั้งสองฝ่ายควรดำเนินการแก้ไขปัญหาชายแดนในกรอบทวิภาคีต่อไป
3. ในส่วนของปลัดกระทรวงการต่างประเทศนั้น ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า
3.1 แม้ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองของไทย แต่ไทยก็พร้อมที่จะดำเนินการการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาภายใต้กรอบทวิภาคีอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Boundary Commission - JBC) และตามที่ตกลงกันไว้ในการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศที่ชะอำ (18-19 สิงหาคม 2551) เพื่อสานต่อผลการประชุมดังกล่าว ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศคนใหม่จะเป็นผู้กำหนดกรอบเวลาในการดำเนินการต่อไป
3.2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยและกัมพูชาจะพบกันในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 29 กันยายน 2551 ในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะแจ้งผลการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนที่ผ่านมาสองครั้ง (ที่เสียมราฐและที่ชะอำ) ให้ที่ประชุมฯ ทราบ
3.3 หลังจากมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่แล้ว จะมีการตั้งประธาน JBC ของฝ่ายไทย และจัดให้มีการประชุม JBC ต่อไป
3.4 สำหรับรายงานข่าวว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยไกล่เกลี่ยแก้ไขปัญหาระหว่างทั้งสองประเทศนั้น ในชั้นนี้ ยังไม่มีความจำเป็นในการให้ประเทศที่ 3 เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งท่าทีนี้สอดคล้องกับท่าทีของสหรัฐฯ ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้แจ้งท่าทีดังกล่าวกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาในระหว่างการพบกันที่กรุงพนมเปญเมื่อเร็วๆ นี้
3.5 ในเรื่องปราสาทตาควาย กรมแผนที่ทหารและกรมกิจการชายแดนแจ้งว่า ทหารของทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจากันแล้ว สถานการณ์ในพื้นที่เป็นปกติโดยทหารกัมพูชาได้ถอนกำลังออกไปห่างจากตัวปราสาทประมาณ 400 เมตร
3.6 กลไกของ JBC มีตารางการทำงานอยู่แล้ว ซึ่งหากมีกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็สามารถใช้กลไก JBC เข้าไปดูแลแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ ทั้งนี้ เรื่องเขตแดนเป็นเรื่องทางเทคนิค จึงไม่ควรนำมาเป็นเรื่องทางการเมือง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2551 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงค์ลี รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางมารับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่กระทรวงการต่างประเทศ
ภายหลังจากการประชุม รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการเจรจาทวิภาคีกับกัมพูชาในเรื่องปัญหาเขตแดนระหว่างสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจและต้องการดำเนินการให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นไปด้วยดี อย่างไรก็ตาม โดยที่ขณะนี้ยังไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทำให้งานขาดช่วงเล็กน้อย ในฐานะที่ตนปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีก็พร้อมที่จะสานต่อการดำเนินความสัมพันธ์อันดีต่อไป จึงได้เดินทางมาหารือกับกระทรวงฯ ในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ขอยืนยันถึงความพร้อมของไทยที่จะแก้ไขปัญหาในกรอบทวิภาคีตามหลักการเดิม และตนพร้อมที่จะร่วมมือในการเจรจาระดับนายกรัฐมนตรีด้วย
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยและกัมพูชาจะมีการหารือกันที่นครนิวยอร์ก ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (IAMM) ในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก ซึ่งฝ่ายไทยจะแจ้งฝ่ายกัมพูชาว่าทั้งสองฝ่ายควรดำเนินการแก้ไขปัญหาชายแดนในกรอบทวิภาคีต่อไป
3. ในส่วนของปลัดกระทรวงการต่างประเทศนั้น ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า
3.1 แม้ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองของไทย แต่ไทยก็พร้อมที่จะดำเนินการการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาภายใต้กรอบทวิภาคีอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Boundary Commission - JBC) และตามที่ตกลงกันไว้ในการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศที่ชะอำ (18-19 สิงหาคม 2551) เพื่อสานต่อผลการประชุมดังกล่าว ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศคนใหม่จะเป็นผู้กำหนดกรอบเวลาในการดำเนินการต่อไป
3.2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยและกัมพูชาจะพบกันในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 29 กันยายน 2551 ในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะแจ้งผลการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนที่ผ่านมาสองครั้ง (ที่เสียมราฐและที่ชะอำ) ให้ที่ประชุมฯ ทราบ
3.3 หลังจากมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่แล้ว จะมีการตั้งประธาน JBC ของฝ่ายไทย และจัดให้มีการประชุม JBC ต่อไป
3.4 สำหรับรายงานข่าวว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยไกล่เกลี่ยแก้ไขปัญหาระหว่างทั้งสองประเทศนั้น ในชั้นนี้ ยังไม่มีความจำเป็นในการให้ประเทศที่ 3 เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งท่าทีนี้สอดคล้องกับท่าทีของสหรัฐฯ ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้แจ้งท่าทีดังกล่าวกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาในระหว่างการพบกันที่กรุงพนมเปญเมื่อเร็วๆ นี้
3.5 ในเรื่องปราสาทตาควาย กรมแผนที่ทหารและกรมกิจการชายแดนแจ้งว่า ทหารของทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจากันแล้ว สถานการณ์ในพื้นที่เป็นปกติโดยทหารกัมพูชาได้ถอนกำลังออกไปห่างจากตัวปราสาทประมาณ 400 เมตร
3.6 กลไกของ JBC มีตารางการทำงานอยู่แล้ว ซึ่งหากมีกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็สามารถใช้กลไก JBC เข้าไปดูแลแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ ทั้งนี้ เรื่องเขตแดนเป็นเรื่องทางเทคนิค จึงไม่ควรนำมาเป็นเรื่องทางการเมือง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-