กรุงเทพ--10 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยมาที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2551 เพื่อมอบบันทึกช่วยจำประท้วงกรณีที่หน่วยทหารกัมพูชาจำนวนประมาณ 70 นาย ได้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่บริเวณปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่ในดินแดนไทย เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2551 (หลังจากที่เคยเข้ามาครั้งหนึ่งแล้วจำนวน 30 คนระหว่างวันที่ 3-6 สิงหาคม 2551) ซึ่งส่วนราชการท้องถิ่นของไทยได้ขอให้หน่วยทหารกัมพูชาดังกล่าวถอนกำลังออกไปจากพื้นที่โดยทันที แต่หน่วยทหารกัมพูชากลับเพิกเฉยอยู่หลายวัน และได้ถอนกำลังออกไปจากปราสาทตาควายและพื้นที่บริเวณดังกล่าวก็เมื่อส่วนราชการท้องถิ่นของไทยได้ประท้วงซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าทหารกัมพูชารุกล้ำดินแดนไทย การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทย กระทรวง
การต่างประเทศจึงได้ประท้วงอย่างเป็นทางการและขอให้ฝ่ายกัมพูชาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต นั้น
ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้มีหนังสือตอบบันทึกช่วยจำดังกล่าวของฝ่ายไทย 2 ฉบับ แจ้งว่าทหารไทยจำนวนประมาณ 100 นาย ได้เข้าไปยึดครองปราสาทตาควายซึ่งถือเป็นการรุกล้ำอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา และขอมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก พร้อมทั้งอ้างว่าปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนกัมพูชา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายได้เชิญอุปทูตฯ กัมพูชาประจำประเทศไทยมาที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อมอบหนังสือของกระทรวงการต่างประเทศตอบหนังสือของฝ่ายกัมพูชาเพื่อยืนยันว่าปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย การวางกำลังทหารไทยจำนวนประมาณ 10 นายที่ปราสาทตาควายเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2551 เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากเป็นการใช้อำนาจอธิปไตยของไทยภายในดินแดนไทย และเป็นการตอบโต้การเข้ามายึดครองปราสาทดังกล่าวโดยทหารกัมพูชาระหว่างวันที่ 6-11 กันยายน 2551 ซึ่งเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของประเทศไทย
กระทรวงการต่างประเทศขอยืนยันว่า ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกับกัมพูชาภายใต้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดนอย่างเป็นธรรมและโดยสันติวิธีกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ตามที่นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยมาที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2551 เพื่อมอบบันทึกช่วยจำประท้วงกรณีที่หน่วยทหารกัมพูชาจำนวนประมาณ 70 นาย ได้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่บริเวณปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่ในดินแดนไทย เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2551 (หลังจากที่เคยเข้ามาครั้งหนึ่งแล้วจำนวน 30 คนระหว่างวันที่ 3-6 สิงหาคม 2551) ซึ่งส่วนราชการท้องถิ่นของไทยได้ขอให้หน่วยทหารกัมพูชาดังกล่าวถอนกำลังออกไปจากพื้นที่โดยทันที แต่หน่วยทหารกัมพูชากลับเพิกเฉยอยู่หลายวัน และได้ถอนกำลังออกไปจากปราสาทตาควายและพื้นที่บริเวณดังกล่าวก็เมื่อส่วนราชการท้องถิ่นของไทยได้ประท้วงซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าทหารกัมพูชารุกล้ำดินแดนไทย การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทย กระทรวง
การต่างประเทศจึงได้ประท้วงอย่างเป็นทางการและขอให้ฝ่ายกัมพูชาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต นั้น
ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้มีหนังสือตอบบันทึกช่วยจำดังกล่าวของฝ่ายไทย 2 ฉบับ แจ้งว่าทหารไทยจำนวนประมาณ 100 นาย ได้เข้าไปยึดครองปราสาทตาควายซึ่งถือเป็นการรุกล้ำอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา และขอมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก พร้อมทั้งอ้างว่าปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนกัมพูชา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายได้เชิญอุปทูตฯ กัมพูชาประจำประเทศไทยมาที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อมอบหนังสือของกระทรวงการต่างประเทศตอบหนังสือของฝ่ายกัมพูชาเพื่อยืนยันว่าปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย การวางกำลังทหารไทยจำนวนประมาณ 10 นายที่ปราสาทตาควายเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2551 เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากเป็นการใช้อำนาจอธิปไตยของไทยภายในดินแดนไทย และเป็นการตอบโต้การเข้ามายึดครองปราสาทดังกล่าวโดยทหารกัมพูชาระหว่างวันที่ 6-11 กันยายน 2551 ซึ่งเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของประเทศไทย
กระทรวงการต่างประเทศขอยืนยันว่า ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกับกัมพูชาภายใต้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดนอย่างเป็นธรรมและโดยสันติวิธีกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-