กรุงเทพ--14 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2551 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ โดยได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ตลอดจนเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จพระอัคคมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และหารือข้อราชการกับนาย ฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา
ภายหลังการเยือนฯ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. การเยือนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำตัวหลังจากเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตามธรรมเนียมปฏิบัติ
2. ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องกันที่จะให้มีการจัดประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศเพื่อหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างกันในโอกาสแรก ก่อนหน้าการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ขณะที่ในส่วนของการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ระหว่างสองประเทศจะมีขึ้นในวันที่ 15 และ 21 ตุลาคม ศกนี้
3. ฝ่ายไทยได้แจ้งให้กัมพูชาทราบถึงกระบวนการภายในตามรัฐธรรมนูญของไทยเกี่ยวกับการขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเรื่องกรอบการเจรจาข้อตกลงชั่วคราว (Provisional Arrangement) สำหรับการเจรจาที่อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตของประเทศ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และจะแจ้ง ชื่อบุคคลที่จะทำหน้าที่ประธาน JBC ฝ่ายไทยให้กัมพูชาทราบภายในสัปดาห์หน้า
4. ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาชายแดนอย่างสันติ โดยอาศัยกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ระหว่างกัน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ต้องการให้เกิดการปะทะกันด้วยกำลัง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศจะต้องพูดคุยและดำเนินการด้วยความรอมชอมและอดทน
5. สำหรับข้อเรียกร้องของกัมพูชาที่ให้ฝ่ายไทยถอนทหารบริเวณพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิบริเวณปราสาทพระวิหารนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ทหารไทยที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรู้สึกที่ว่าพื้นที่ส่วนนั้นเป็นดินแดนของไทย ขณะที่ทหารกัมพูชารู้สึกว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา จึงเป็นเรื่องที่ทั้งสองประเทศจะต้องหารือและร่วมกันแก้ไขปัญหา
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2551 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ โดยได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ตลอดจนเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จพระอัคคมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และหารือข้อราชการกับนาย ฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา
ภายหลังการเยือนฯ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. การเยือนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำตัวหลังจากเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตามธรรมเนียมปฏิบัติ
2. ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องกันที่จะให้มีการจัดประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศเพื่อหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างกันในโอกาสแรก ก่อนหน้าการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ขณะที่ในส่วนของการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ระหว่างสองประเทศจะมีขึ้นในวันที่ 15 และ 21 ตุลาคม ศกนี้
3. ฝ่ายไทยได้แจ้งให้กัมพูชาทราบถึงกระบวนการภายในตามรัฐธรรมนูญของไทยเกี่ยวกับการขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเรื่องกรอบการเจรจาข้อตกลงชั่วคราว (Provisional Arrangement) สำหรับการเจรจาที่อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตของประเทศ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และจะแจ้ง ชื่อบุคคลที่จะทำหน้าที่ประธาน JBC ฝ่ายไทยให้กัมพูชาทราบภายในสัปดาห์หน้า
4. ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาชายแดนอย่างสันติ โดยอาศัยกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ระหว่างกัน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ต้องการให้เกิดการปะทะกันด้วยกำลัง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศจะต้องพูดคุยและดำเนินการด้วยความรอมชอมและอดทน
5. สำหรับข้อเรียกร้องของกัมพูชาที่ให้ฝ่ายไทยถอนทหารบริเวณพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิบริเวณปราสาทพระวิหารนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ทหารไทยที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรู้สึกที่ว่าพื้นที่ส่วนนั้นเป็นดินแดนของไทย ขณะที่ทหารกัมพูชารู้สึกว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา จึงเป็นเรื่องที่ทั้งสองประเทศจะต้องหารือและร่วมกันแก้ไขปัญหา
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-