เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2551 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปคที่กรุงลิมา ประเทศเปรู กล่าวคือ นาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย นาย Alejandro Foxley รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชิลี นาย Stephen Smith รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย และนาย Lawrence Cannon รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแคนาดา
ในการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการเงินโลก ซึ่งในส่วนของไทยนั้นได้แจ้งให้ทราบถึงการดำเนินงานของกลุ่มประเทศอาเซียน + 3 ในการส่งเสริมความคิดริเริ่มเชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative) เพื่อช่วยเหลือประเทศที่ต้องการเงินทุนสำรองฉุกเฉิน ในขณะที่ฝ่ายรัสเซียได้ย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในการประสานนโยบายเศรษฐกิจมหภาค อีกทั้งได้กล่าวว่าน่าจะเป็นประโยชน์หากมีการส่งเสริมให้มีการนำเงินสกุลต่างๆ ในภูมิภาคมาใช้เพิ่มเติม ในส่วนของความสัมพันธ์ทวิภาคีนั้น รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวขอบคุณรัสเซียอีกครั้งที่ได้ถวายการต้อนรับสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2550 ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าควรเร่งรัดให้บรรลุความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายโดยเร็ว อีกทั้งควรจัดให้มีการประชุมคณะกรรมาธิการ่วมไทย-รัสเซียในโอกาสแรก นอกจากนี้ ฝ่ายรัสเซียได้กล่าวว่ากำลังติดตามคดีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของนาย Victor Bout อยู่ และแสดงความเชื่อมั่นว่าระบบตุลาการของไทยมีความเป็นกลางและยุติธรรม
ในการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชิลี รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการฯ ได้แสดงความหวังว่าฝ่ายชิลีจะสามารถดำเนินการให้อนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย-ชิลีมีผลบังคับใช้โดยเร็ว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศ ส่วนฝ่ายชิลีได้แสดงความสนใจที่จะเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับชิลี ซึ่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการฯ ได้อธิบายให้ฝ่ายชิลีทราบถึงกระบวนการพิจารณาของฝ่ายไทย รวมทั้งการดำเนินการตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ในการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการฯ ได้ขอให้ฝ่ายออสเตรเลียพิจารณาให้ไทยได้เข้าร่วมในโครงการการตรวจลงตราอิเล็กทรอนิคส์ (Electronic Travel Authority) เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปออสเตรเลียของคนไทย ซึ่งทุกๆ ปีมีนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยกว่า 80,000 คน เดินทางไปออสเตรเลีย พร้อมทั้งขอบคุณออสเตรเลียที่ได้เพิ่มโควต้า Work Holiday Visas จาก 200 รายเป็น 500 ราย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยไปเยือนและทำงานในออสเตรเลียพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน
ในส่วนของการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแคนาดานั้น ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นของทั้งสองประเทศ ซึ่งได้มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดทั้งในกรอบพหุภาคีและทวิภาคีมาโดยตลอด ในการนี้ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการฯ ได้ขอให้รัฐบาลแคนาดาให้การสนับสนุนไทยในการสมัครเป็นคณะกรรมการประจำอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดารับนำไปพิจารณาด้วยดีต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--