เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2551 กระทรวงการต่างประเทศได้จัดการประชุมระดมสมองกับภาคเอกชนเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไทย-แอฟริกา ณ วิเทศสโมสร ส่วน 3 กระทรวงการต่างประเทศ โดยภาคเอกชนไทยที่ให้ความสนใจต่อการค้าและการลงทุนในแอฟริกาเข้าร่วมประชุมจำนวน 60 บริษัท ตามกลุ่มสาขาธุรกิจ 5 ประเภทได้แก่ การเกษตร ก่อสร้าง พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ อัญมณี และสินค้าและบริการ สรุปผลการประชุม ดังนี้
1. ที่ประชุมสนับสนุนยุทธศาสตร์สานสัมพันธ์ไทย-แอฟริกา หรือ ARM ซึ่งประกอบด้วย Assistance การให้ความช่วยเหลือ Resource การแสวงหาทรัพยากรและวัตถุดิบ และ Market การแสวงหาตลาดใหม่สำหรับสินค้าไทย ว่าเป็นนโยบายเชิงรุกที่สร้างสัมพันธ์หลายมิติกับแอฟริกาอย่างต่อเนื่อง กอปรกับการให้ความช่วยเหลือของไทยแก่ภูมิภาคนี้ ทั้งในด้านยารักษาโรค การเกษตร สาธารณสุข และการฝึกอบรมด้านต่างๆ ทำให้ภาพลักษณ์ไทยในสายตาชาวแอฟริกันได้รับความชื่นชมว่าเป็นตัวอย่างการพัฒนาเศรษฐกิจ
2. ที่ประชุมเห็นว่า บนพื้นฐานความสัมพันธ์อันดีของไทย-แอฟริกา และนโยบายจากยุทธศาสตร์ ARM จะสามารถสนับสนุนภาคเอกชนไทยเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนกับแอฟริกาได้มากขึ้น โดยภาครัฐจะต้องร่วมทำงานในลักษณะบูรณาการกับภาคเอกชนภายใต้ความสนับสนุนอย่างจริงจังจากรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมสัมพันธ์ในระดับผู้นำรัฐบาล ข้อมูลเชิงลึกทางการตลาด การเจรจาเพื่อลดหย่อนภาษี การประกันความเสี่ยงของระบบการชำระเงิน และการสนับสนุนด้านงบประมาณ
3. ที่ประชุมได้มีโอกาสรับฟังประสบการณ์จากผู้แทนบริษัทไทยที่เข้าไปลงทุนและประกอบธุรกิจในแอฟริกา เพื่อแนะนำโอกาสการค้าและการลงทุน เช่น การคัดเลือกประเทศที่มีศักยภาพ ตลาดใหญ่และมีระบบธนาคารเป็นที่ยอมรับ ความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ตลาดสินค้าที่ยังสามารถเป็นฐานการผลิตของไทย การแสดงความเชื่อมั่นว่าคู่ค้า/ลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือและมีศักยภาพยังมีอีกจำนวนมาก และความต้องการธุรกิจประเภทที่ต้องใช้แรงงานมีฝีมือ ตลอดจนอุปสรรคต่างๆ อาทิ การประกันความเสี่ยงของการชำระเงิน ระเบียบการเข้าเมือง ความปลอดภัยในการเดินทาง การจัดเก็บสินค้า และกฎระเบียบทางภาษีศุลกากร
4. ที่ประชุมได้เสนอแนวทางการส่งเสริมยุทธศาสตร์ ARM ในมิติด้านตลาดสำหรับสินค้าไทย ได้แก่ การเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการไทยในการดำเนินธุรกิจในแอฟริกา การจัดตั้ง Thai Community ในแอฟริกาโดยอาจเริ่มต้นจากร้านอาหารไทย เพื่อใช้เป็นฐานทางธุรกิจ การสร้างฐานข้อมูลเชิงลึกในลักษณะของเว็บไซต์ Thai-Africa Business Community การเจรจากับภาครัฐของประเทศคู่ค้าในการลดหย่อนภาษีให้กับผู้ประกอบการไทย การจัดคณะ Focus Group ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อเยือนประเทศเป้าหมายโดยจัด business matching กับคู่ค้าสำคัญ ตลอดจนการจัดตั้ง warehouse และหรือโกดังเก็บสินค้าของไทยในแอฟริกา เป็นต้น
5. จากผลสำรวจความเห็นของภาคเอกชนไทยที่สนใจประกอบธุรกิจกับแอฟริกา ซึ่งจัดทำโดยสภาหอการค้าไทยในฐานะผู้ร่วมสนับสนุนการจัดประชุมครั้งนี้ ระบุถึงประเทศแอฟริกาใต้ อียิปต์ เคนยา แคเมอรูน โมร็อกโก เซเนกัล แองโกลา โมซัมบิก แอลจีเรีย ตูนีเซีย ลิเบีย ไนจีเรีย มาดากัสการ์ แทนซาเนีย กานา และมอริเชียส โดยมีประเภทธุรกิจสินค้าสำคัญได้แก่ ข้าว อาหารสำเร็จรูปเสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทอ ยารักษาโรค เฟอร์นิเจอร์ วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร เคมีภัณฑ์และพลังงาน อัญมณีและเครื่องประดับ
สำหรับนักธุรกิจหรือผู้สนใจที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและขอรับเอกสารโอกาสและศักยภาพทางธุรกิจของแอฟริกาประกอบการประชุมได้ที่กองแอฟริกา กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2643 5047 ในวันและเวลาราชการ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--