เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2551 เวลา 00.14 น. และเวลา 03.14 น. ตามเวลาในประเทศไทย (ตรงกับเวลา 20.14 น. และ 23.14 น. ของวันที่ 3 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่นที่ซาอุดีอาระเบียตามลำดับ) เที่ยวบินพิเศษของการบินไทย 2 เที่ยวได้นำคณะผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิมจำนวนรวม 355 คน ซึ่งประสบความล่าช้าในการเดินทางจากเหตุการณ์ปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปถึงสนามบินฮัจย์ เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียโดยเรียบร้อย และกำลังเตรียมการที่จะเดินทางไปยังนครมักกะห์เพื่อประกอบพิธีฮัจย์ต่อไป
ตามระเบียบปฏิบัติของทางการซาอุดีอาระเบียในการบริหารจัดการพิธีฮัจย์ทุกปี จะกำหนดให้เปิดสนามบินฮัจย์ที่เมืองเจดดาห์ เป็นสนามบินเฉพาะสำหรับผู้แสวงบุญจากทั่วโลกใช้เดินทางเข้าและออกจากซาอุดีอาระเบีย โดยระบุช่วงเวลาเปิดและปิดทำการสนามบินฮัจย์ขาเข้าและขาออกไว้อย่างแน่นอน และผู้แสวงบุญที่เดินทางมาถึงไม่ทันช่วงเวลาที่สนามบินฮัจย์เปิดทำการ ก็จะไม่สามารถเข้าประเทศซาอุดีอาระเบียได้ สำหรับการประกอบพิธีฮัจย์ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1429 (2551) นี้ ทางการซาอุดีอาระเบียก็ได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนก่อนแล้วว่า จะเปิดสนามบินฮัจย์ให้ผู้แสวงบุญเดินทางเข้าไปเจดดาห์ ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 2 ธันวาคม 2551 และเปิดสนามบินฮัจย์อีกครั้งระหว่างวันที่ 11 ธันวาคมถึง 12 มกราคม 2552 สำหรับการเดินทางกลับเท่านั้น
เมื่อเกิดกรณีปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในประเทศไทย กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้ประสานงานอย่างเร่งด่วนมายังกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ และสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองเจดดาห์ เพื่อขอให้เจรจาขอผ่อนผันให้ผู้แสวงบุญชาวไทยที่ตกค้าง สามารถเดินทางเข้าประเทศซาอุดีอาระเบียได้หลังกำหนดปิดสนามบินฮัจย์ เป็นกรณีพิเศษ ทันที่ที่ได้รับการติดต่อจากประเทศไทยเมื่อวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2551 นายประภาส จันทหาร กงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองเจดดาห์ ได้รีบมีหนังสือด่วนที่สุดถึงกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย (สาขามณฑลมักกะห์) กระทรวงกิจการฮัจย์ของซาอุดีอาระเบีย และ กรมการบินพลเรือน (General Authority of Civil Aviation - GACA) ของซาอุดีอาระเบีย และต่อมา ในวันสุดท้ายที่สนามบินฮัจย์ยังเปิดทำการ คือวันที่ 2 ธันวาคม กงสุลใหญ่ฯ กับนายเปายี แวสะแม รองกงสุล ได้เข้าพบผู้บริหาร GACA ด้วยตนเองเพื่อหารือเกี่ยวกับการขอผ่อนผันดังกล่าว ฝ่ายซาอุดีอาระเบียแจ้งว่า เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตามที่สถานกงสุลใหญ่แจ้งให้ทราบครั้งนี้ เป็นเรื่องนอกเหนือความคาดหมาย ดังนั้น เพื่อให้ชาวไทยมุสลิมสามารถเดินทางไปแสวงบุญได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของซาอุดีอาระเบียจึงอนุมัติคำขอผ่อนผันของไทยให้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งกงสุลใหญ่ได้ขอบคุณฝ่ายซาอุดีอาระเบียในความอนุเคราะห์ครั้งนี้ และได้ประสานงานรายละเอียดกับ GACA เกี่ยวกับตารางบินและกำหนดเวลาลงจอดของเที่ยวบินพิเศษของการบินไทยทั้ง 2 เที่ยว จนทำให้ผู้แสวงบุญชาวไทย 2 คณะดังกล่าวเดินทางถึงเจดดาห์ได้ในที่สุด
การเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ถือเป็นศาสนกิจที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งในชีวิตของชาวมุสลิม และทางการไทยก็ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดูแลอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องไทยมุสลิมที่เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2551 อันเป็นวันแรกที่ทางการซาอุดีอาระเบียเปิดสนามบินฮัจย์ จนถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2551 มีผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิมได้เดินทางไปถึงเจดดาห์แล้ว 13,604 คน ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองเจดดาห์ ได้จัดกำลังข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสถาน กงสุลใหญ่ ร่วมกับสำนักงานคณะผู้แทนฮัจย์ไทย เพื่อปฎิบัติหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิม ที่สนามบินฮัจย์ ตลอด 24 ชั่วโมง ตามแนวปฏิบัติที่ได้ดำเนินการมาทุกปี
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--