ไทยตอบโต้กัมพูชาที่กล่าวหาและติเตียนไทยผ่านช่องทางการทูตและสื่อมวลชน

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 23, 2008 11:40 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2551 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้มีหนังสือตอบโต้กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา ยืนยันท่าทีทางกฎหมายของไทยต่อเรื่องเขตแดนว่าไทยมีเหตุผลทางกฎหมายที่หนักแน่นและสอดคล้องกันทุกจุดพื้นที่ ในขณะที่กัมพูชามักเลือกใช้เหตุผลสนับสนุนทางกฎหมายเฉพาะที่จะเอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายตนในพื้นที่แต่ละแห่ง ซึ่งเป็นท่าทีที่เปลี่ยนไปมา

ไม่สอดคล้องกันในแต่ละจุด

การมีหนังสือทักท้วงของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญดังกล่าว เป็นการตอบโต้กรณีที่นายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา กล่าวติเตียนไทยในการหารือกับเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ และกล่าวต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2551 ว่าการประท้วงของไทยต่อกัมพูชาในเรื่องเขตแดนเป็นการประท้วงที่ไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย

ฝ่ายกัมพูชากล่าวรายละเอียดเรื่องนี้ในหลายประเด็น เช่น อ้างว่าท่าทีไทยเกี่ยวเขตแดนบริเวณระหว่างหลักเขตแดนที่ 48-49 อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ปราศจากหลักฐานสนับสนุน ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้ตอบโต้ไปว่าเรื่องนี้ไทยมีหลักฐานชัดเจนในบันทึกวาจาการปักหลักเขตแดนของคณะกรรมการปักปันเขตแดนระหว่างสยามกับอินโดจีนที่จัดทำขึ้นในปี ค.ศ. 1909 และ 1919 ซึ่งกัมพูชาก็ใช้เอกสารชุดนี้มาอ้างกับไทยเหมือนกัน แต่เลือกนำมาอ้างเฉพาะกับบริเวณที่คิดเอาเองว่าตนได้ประโยชน์เช่นกรณีปราสาทตาเมือน เป็นต้น แต่ในจุดที่เอกสารชุดนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายกัมพูชา เช่น บริเวณระหว่างหลักเขตแดนที่ 48-49 ฝ่ายกัมพูชาก็เลี่ยงที่จะอ้างถึงและยกแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ที่พิมพ์ในฝรั่งเศสมาอ้างแทน เป็นต้น

ฝ่ายไทยแจ้งด้วยว่ารู้สึกประหลาดใจที่กัมพูชายกเรื่องข้อกฎหมายขึ้นมาเป็นประเด็นในระดับรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่กัมพูชาเองเป็นฝ่ายที่บ่ายเบี่ยงไม่หารือประเด็นกฎหมายในระดับเทคนิค และทั้งๆ ที่ฝ่ายไทยได้แจ้งให้ทราบแล้วว่าไทยพร้อมเสมอที่จะหารือกันในประเด็นข้อกฎหมาย โดยในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2551 ไทยได้เสนอให้จัดตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายขึ้น แต่กัมพูชาเป็นฝ่ายที่พยายามบ่ายเบี่ยง และในที่สุดก็ยอมรับ แต่มีเงื่อนไขว่าขอใช้ชื่อคณะทำงานเฉย ๆ อีกทั้งยังขอนำที่ปรึกษากฎหมายต่างชาติมาร่วมหารือด้วย ซึ่งฝ่ายไทยก็ไม่เคยขัดข้อง และพร้อมที่จะหารือประเด็นกฎหมายโดยใช้คนไทยล้วนๆ

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยยังคงยืนยันความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะแก้ไขปัญหาเขตแดนกับกัมพูชาอย่างฉันมิตรในกรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้รายงานผลการประชุม JBC ไปยังรัฐสภาตามข้อบทของรัฐธรรมนูญแล้ว และเรื่องดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาในสมัยประชุมรัฐสภาที่จะมาถึง ซึ่งเมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ฝ่ายไทยก็จะสามารถเจรจาต่อไปได้

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ