นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday January 20, 2009 08:57 —กระทรวงการต่างประเทศ

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2552 ตามคำเชิญของนายทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว โดยได้พบหารือข้อราชการ แบบเต็มคณะกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ศูนย์การประชุมหลัก 5 หลังจากนั้นได้เข้าเยี่ยมคารวะนายบัวสอน บุบผาวัน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรี ในช่วงค่ำ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาวเป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรองอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่คณะที่โรงแรมลาวพลาซ่า

ในการหารือกับผู้นำ สปป.ลาว ทั้งสองฝ่ายแสดงความพึงพอใจต่อความสัมพันธ์ไทย-ลาว ที่ดำเนินไปอย่างราบรื่นใกล้ชิดในปัจจุบัน และได้ยืนยันความพร้อมที่จะทำงานร่วมกันทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อส่งเสริม ความร่วมมือไทย-ลาวในทุกด้านให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและสร้างความอยู่ดีมีสุข ให้แก่ประชาชนไทยและประชาชนลาวอย่างยั่งยืนร่วมกัน ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายกำหนดจะจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือ (JC) ไทย-ลาว ครั้งที่ 15 ซึ่งเป็นกลไกกำกับดูแลความสัมพันธ์ไทย-ลาวในทุกมิติเพื่อติดตามและผลักดันความร่วมมือไทย -ลาวให้คืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ในเดือนมีนาคม 2552 ที่หลวงพระบาง สรุปประเด็นสำคัญ ของการหารือ ดังนี้

  • อาเซียน : ฝ่ายลาวยืนยันความพร้อมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 27 ก.พ. — 1 มี.ค. 2552 รวมทั้งการประชุมสุดยอดกับประเทศคู่เจรจาและการประชุมที่เกี่ยวข้องที่จะจัดขึ้นในโอกาสต่อไป
  • การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน : ทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีที่ความร่วมมือสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนมีความคืบหน้าอย่างน่าพอใจ ถึงปัจจุบันสามารถสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก (702 กม.) ได้ประมาณร้อยละ 96 (ประมาณ 676 กม.) และสนับสนุนการทำงานร่วมกันเพื่อสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนให้แล้วเสร็จตลอดแนวตามเป้าหมาย กล่าวคือ ภายในปี 2552 สำหรับเขตแดนทางบก (702 กม.) และภายในปี 2553 สำหรับเขตแดนทางน้ำ (1,108 กม.) โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาว (JBC) ครั้งที่ 9 ในปี 2552
  • จุดผ่านแดน : ฝ่ายไทยแสดงความยินดีที่ฝ่ายลาวได้ยกระดับด่านท้องถิ่นน้ำเงิน เมืองเงิน แขวงไชยะบุรี ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรบ้านห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน เป็นด่านสากลแล้ว เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2551 และสนับสนุนให้ฝ่ายลาวเปิดและยกระดับจุดผ่านแดนในพื้นที่ที่มีความพร้อมให้มากยิ่งขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้า การท่องเที่ยว และการสัญจรให้แก่ประชาชน
  • ความร่วมมือพัฒนาเครือข่ายคมนาคม : ฝ่ายลาวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความช่วยเหลือในโครงการพัฒนาเครือข่ายคมนาคมต่าง ๆ ซึ่งได้ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่การสัญจรและเป็นปัจจัยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของ สปป.ลาวที่สำคัญและเสนอให้ฝ่ายไทยคงหลักการให้ความช่วยเหลือดำเนินโครงการต่าง ๆ ในรูปเงินให้เปล่าและเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรน สัดส่วน 30:70 ฝ่ายไทยได้ยืนยันให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการต่าง ๆ ตามที่รัฐบาลของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันไว้อย่างต่อเนื่องและ สำเร็จตามเป้าหมาย และได้แจ้งสถานะและการดำเนินการของฝ่ายไทยในโครงการสำคัญ ดังนี้
(1) โครงการรถไฟไทย-ลาว (หนองคาย-ท่านาแล้ง) ระยะทาง 3.5 กม. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและลาวอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดพิธีเปิดเดินรถไฟขบวนปฐมฤกษ์ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ เป็นองค์ประธานระหว่างวันที่ 5-6 มีนาคม 2552
(2) โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ได้ดำเนินการเรื่องการจัดพิธีวางศิลาฤกษ์และการกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธานในพิธีในช่วงวันที่ 5-6 มีนาคม 2552 ตามที่ฝ่ายลาวเสนอแล้ว
(3) โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) ฝ่ายไทยกำลังเร่งรัดจัดทำ Financial Agreement กับฝ่ายจีนและจะเร่งรัดการดำเนินการที่เกี่ยวข้องเพื่อเริ่มก่อสร้างตามกำหนดภายในเดือนธันวาคม 2552 นอกจากนั้น รมว.กต.ได้รับที่จะพิจารณาโครงการใหม่ 2 โครงการที่ฝ่ายลาวเสนอขอรับความช่วยเหลือจากไทย ได้แก่ (4) โครงการรถไฟไทย-ลาว ระยะที่ 2 สร้างทางรถไฟต่อจากท่านาแล้งถึงนครหลวงเวียงจันทน์ ระยะทางประมาณ 9.5 กิโลเมตร และ (5) โครงการปรับปรุงถนนหมายเลข 11 จากสามแยกสีไคถึงบ้านน้ำสัง นครหลวงเวียงจันทน์ ระยะทางประมาณ 92 กิโลเมตร โดยจะเสนอให้คณะกรรมการความร่วมมือพัฒนาทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (กพบ.) ซึ่ง นรม.เป็นประธานพิจารณาต่อไป และจะติดตามเรื่องการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการโดยเร็ว
  • การแก้ไขปัญหาชาวม้งลาวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย : ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจต่อความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาโดยคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน (GBC)ไทย-ลาว GBC เป็นกลไกหลักรับผิดชอบ และจะสืบต่อแก้ไขปัญหาแบบทวิภาคีให้สำเร็จโดยเร็ว
  • ความร่วมมือด้านแรงงานและต่อต้านการค้ามนุษย์ : ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ปัจจุบันสามารถพิสูจน์สัญชาติแรงงานลาวในไทยเพื่อปรับสถานะให้เป็นแรงงานถูกกฎหมายได้ประมาณ 57,000 คน คงเหลืออีกประมาณ 13,000 คน และสนับสนุนให้เร่งรัดดำเนินการพิสูจน์สัญชาติให้เสร็จโดยเร็ว รวมทั้งจะเร่งรัดจัดระบบแรงงานตามแนวชายแดนประเภทมาเช้า-กลับเย็นและตามฤดูกาลเพื่อให้แรงงานได้รับความคุ้มครองและได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องสนับสนุนให้จังหวัดและแขวงชายแดนไทย-ลาวที่มีพรมแดนติดกันขยายความร่วมมือด้านต่อต้านการค้ามนุษย์
  • ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน : ฝ่ายไทยแจ้งนโยบายของรัฐบาลไทยสนับสนุนให้นักลงทุนไทยที่น่าเชื่อถือเข้ามาลงทุนในลาวให้มากขึ้นโดยให้ความสำคัญกับการที่นักลงทุนจะต้องมีส่วนช่วยเหลือให้การพัฒนาและรับผิดชอบต่อสังคม สปป.ลาว (Corporate Social Responsibility — CSR) นอกจากนั้นไทยพร้อมให้ความร่วมมือจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ใน สปป.ลาวให้สำเร็จตามเป้าหมายในปี 2553
  • ความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทย-ลาว : ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนการกระชับความร่วมมือระหว่าง กต.ไทย-ลาว ในโอกาสนี้ ฝ่ายไทยได้มอบงบประมาณจำนวน 2 ล้านบาท ตามโครงการ “ โรงเรียนเพื่อนมิตร” ประจำปี 2552 เพื่อก่อสร้างอาคารเรียนที่โรงเรียนมัธยมสมบูรณ์ บ้านนาข่า เมืองนาทรายทอง นครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของ สปป.ลาว
  • การสนับสนุน สปป.ลาวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25: ฝ่ายลาวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้ให้การสนับสนุน สปป.ลาวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ในเดือนธันวาคม 2552 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอยู่ระหว่างดำเนินแผนงานวงเงิน 90 ล้านบาท ให้ความช่วยเหลือก่อสร้างและปรับปรุงสนามกีฬา รวมทั้งฝึกอบรมบุคลากรลาว

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ