เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2552 นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ดำเนินการด้านการทูตเพื่อประชาชน (Public Diplomacy) โดยพบหารือผู้บริหารหน่วยงานสำคัญ ดังนี้
1. การพบหารือผู้บริหารสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือคณะผู้บริหารสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อสถาปนาความร่วมมือระหว่างกัน สองฝ่ายเห็นพ้องในการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน เพื่อกำหนดกรอบความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัย วิชาการ การฝึกอบรมที่เกี่ยวกับการต่างประเทศและนโยบายต่างประเทศ ได้แก่ ความรู้ในการพัฒนาสถาบันวิจัยเชิงนโยบาย (Think Tank) ความร่วมมือในการส่งเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของไทยไปฝึกอบรมและศึกษาดูงานด้านสถาบันวิจัยเชิงนโยบายในต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ ความร่วมมือในการจัดตั้งโครงการวิจัยเชิงนโยบายสำหรับประเทศและกลุ่มประเทศที่สำคัญ (Country Watch) ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ความร่วมมือเพื่อการศึกษาวิจัยในประเด็น ระดับโลกที่สำคัญ (Global Issues) อาทิ ความมั่นคง พลังงาน อาหาร สิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนประเด็นท้าทายใหม่ ๆ ในประชาคมโลก รวมทั้งการจัดทำโครงการฝึกอบรมข้าราชการแรกเข้าของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ข้าราชการดังกล่าวได้ศึกษาและรับทราบสภาพชนบท และชุมชนของไทยตามแนวจังหวัดชายแดน
2. การพบหารือผู้อำนวยการสถาบันดุริยางคศาสตร์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือ รศ.ดร. สุกรี เจริญสุข ผู้อำนวยการวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อหาแนวทางความร่วมมือระหว่างกัน ในการส่งเสริมวัฒนธรรมและดนตรีไทยในต่างประเทศ โดยมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นผลพลอยได้ที่ติดตามมา ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศรับที่จะประสานการหารือกับกระทรวงวัฒนธรรมและกรุงเทพมหานคร ในการจัดทำเครือข่ายความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและดนตรีไทยในต่างประเทศ โดยจะพิจารณาส่งเสริมให้มีการนำคณะนักดนตรีจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ไปจัดแสดงในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจัดแสดงในต่างประเทศในโอกาสต่างๆ เช่น การประชุมที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนที่ประเทศไทยจะจัดในปี 2552
3. การกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมของ Council for Security Cooperation in the Asia Pacific
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “ไทยและบทบาทการเป็นประธานอาเซียน” ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริหาร ครั้งที่ 30 (30th Steering Committee Meeting) ของ Council for Security Cooperation in the Asia Pacific (CSCAP) ที่โรงแรมโซฟิเทล สีลม ซึ่ง CSCAP จัดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้ข้อคิดเห็นว่า CSCAP มีบทบาทการเป็น Track II ในการให้ข้อคิดเห็นเพื่อพัฒนาความร่วมมือในเอเชียแปซิฟิกในกรอบความร่วมมือต่างๆ เช่น อาเซียน อาเซียน+3 การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) การประชุมอาเซียนว่าด้วยความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ARF) นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้ขอให้ CSCAP แต่งตั้งผู้แทนมาบรรยายสรุปผลการประชุมให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีได้รับทราบด้วย ทั้งนี้ CSCAP ได้เสนอความเป็นไปได้ที่จะให้ CSCAP เป็น Track II ที่มีความร่วมมืออย่างชัดเจนกับกรอบความร่วมมือใน Track I ต่าง ๆ เช่น ARF เป็นต้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--