นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ระหว่างวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2552 โดยในช่วงการเยือนดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการฯ ได้พบหารือกับ ดร. เอ็น ฮัสซัน วิรายูดา รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติ ต่อจากนั้น ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ดร. ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน ประธานาธิบดี พบหารือกับนายเฟรดดี้ นูเมอรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทางทะเลและประมง และ ศจ. ดร. เอช เมซีคูริ อับดิลลาห์ เอ็ม เอช ประธานสภาบริหาร (Executive Council) ขององค์กรมุสลิม Nahdlatul Ulama (NU)
ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันเกี่ยวกับการร่วมจัดกิจกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 60 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ในปี 2553 เพื่อส่งเสริมความรู้เรื่องความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือเกี่ยวกับนโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ซึ่งรัฐบาลอินโดนีเซียยินดีที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในอาเจห์และปาปัวตะวันตก (อิเรียนจายา) นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศควรทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้ง สนับสนุนการเชื่อมโยงการคมนาคมภายใต้กรอบความร่วมมือ IMT-GT โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปิดสายการบินต้นทุนต่ำจากอินโดนีเซียมาไทย
ในส่วนที่เกี่ยวกับอาเซียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ไทยจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับอินโดนีเซีย โดยเฉพาะการผลักดันอาเซียนให้ก้าวไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยและมีการเคารพสิทธิมนุษยชน เพราะแม้ว่าไทยจะเป็นประธานอาเซียน แต่อินโดนีเซียมีบทบาทนำในอาเซียนในฐานะที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งอาเซียน และเป็นประเทศประชาธิปไตย สำหรับเรื่องโรฮิงญา ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดต่อไปในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และโดยที่ปัญหาดังกล่าวไม่สามารถจะแก้ไขได้โดยประเทศเพียงประเทศเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศต้นทาง ประเทศที่เป็นทางผ่าน และประเทศปลายทาง จึงเห็นพ้องกันว่า Bali Process (Regional Ministerial Process on People Smuggling, Trafficking in Persons & Related Transnational Crime) เป็นเวทีที่เหมาะสมในการหารือเรื่องนี้ ทั้งนี้ จะมีการประชุม Bali Process เร็ว ๆ นี้ (อาจเป็นช่วงเดือนมีนาคม 2552) และอาจมีการหารือนอกรอบเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 ที่ประเทศไทยด้วย
ในด้านประมง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยืนยันนโยบายของไทยที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ นักธุรกิจ/ผู้ประกอบการประมงไทยที่ซื่อสัตย์และน่าเชื่อถือรวมตัวกัน เพื่อไปลงทุนประกอบธุรกิจประมงในอินโดนีเซีย โดยได้เสนอที่จะส่งรายชื่อผู้ประกอบการด้านประมงของไทยให้ฝ่ายอินโดนีเซียพิจารณา เพื่อจับคู่ทางธุรกิจต่อไป รัฐบาลไทยจะกำกับผู้ประกอบการธุรกิจประมงและเรือประมงของไทยดังกล่าวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบประมงของอินโดนีเซีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทางทะเลและประมงของอินโดนีเซียร่วมมือในการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยและอินโดนีเซีย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทางทะเลฯ ยินดีที่จะทำงานร่วมกับไทย เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
ในการพบหารือกับประธาน Executive Council ของ NU ซึ่งเป็นองค์กรมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ขอบคุณที่ NU จะให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยมุสลิมใน จชต. ไปศึกษาในอินโดนีเซีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ศอ.บต. จะแจ้งรายชื่อนักเรียนไทยให้ฝ่าย NU ทราบในโอกาสแรก ทั้งนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือในอนาคต ในการแลกเปลี่ยนการเยือนของครูสอนศาสนา และ Ulama จาก NU ไป จชต. การแลกเปลี่ยนนักเรียนระยะสั้น และการเรียนรู้จากประสบการณ์ของอินโดนีเซียในการจัดหลักสูตรการศึกษาเพื่อการผสมผสานระหว่างหลักสูตรทางศาสนากับหลักสูตรสายสามัญ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--