รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแถลงผลหารือทวิภาคีกับสิงคโปร์และผลการเยือนเวียดนาม

ข่าวต่างประเทศ Friday February 27, 2009 10:31 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552 นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวภายหลังการหารือกับนายจอร์จ เยียว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ โดยได้สรุปผลการหารือดังกล่าวและผลการเยือนเวียดนามเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552

รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่าการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์เป็นการพบกันครั้งแรกและเป็นโอกาสแนะนำตัว สำหรับประเด็นที่หารือกันครั้งนี้เน้นเรื่องของความร่วมมือในการขับเคลื่อนอาเซียน ทั้งในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 และต่อไปในอนาคต เพื่อทำให้อาเซียนพัฒนาเป็นประชาคมต่อไป ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า อาเซียนควรร่วมมือเพื่อส่งสารไปยังประชาคมระหว่างประเทศให้มีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลกโดยเร็ว

รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่าโดยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ได้รับเชิญจากนายกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ให้เข้าร่วมการประชุมกลุ่มประเทศ G20 ในวันที่ 2 เมษายน 2552 ในฐานะประธานอาเซียน และโดยที่อินโดนีเซียซึ่งเป็นสมาชิกอาเซียนก็เป็นสมาชิก G20 ด้วย อาเซียนจึงควรใช้โอกาสดังกล่าวในการบอกกล่าวกับประชาคมโลกถึงความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การเงินและการธนาคาร แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และประสานท่าทีระหว่างกันในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวด้วยว่า ไทยตอบรับคำเชิญที่จะเดินทางเยือนสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 17-18 มีนาคม 2552 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองฝ่ายจะหารือประเด็นทวิภาคีกันในโอกาสดังกล่าว

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้แถลงถึงผลการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552 ว่า ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายเหวียน เติน ซุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เข้าเยี่ยมคารวะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และหารือข้อราชการกับนายฝ่าม ชา เคียม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ตลอดจนพบปะกับทีมประเทศไทยในเวียดนาม และนักธุรกิจไทยในเวียดนามด้วย

สำหรับประเด็นสำคัญของการหารือนั้น ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับประเด็นในความสัมพันธ์สองฝ่าย รวมถึงประเด็นด้านการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุน ซึ่งเวียดนามได้เชิญชวนให้นักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในเวียดนามในสาขาต่างๆ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ การแปรรูปสินค้าเกษตร และการประมง ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่าจะติดตามผลโดยจัดประชุมหารือกับภาคธุรกิจไทย รวมถึงธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เพื่อประสานกันว่าจะมีแนวทางส่งเสริมการลงทุนของไทยในเวียดนามอย่างไรต่อไป

สำหรับประเด็นอื่นๆ ที่หารือกันได้แก่ การกระชับความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง การศึกษาและวิจัย ตลอดจนความร่วมมือระหว่างประชาชนของสองประเทศ สำหรับประเด็นเกี่ยวกับอาเซียน ไทยและเวียดนามยืนยันที่จะร่วมมือกันในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน

รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าเยี่ยมคารวะพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามว่า นอกจากจะเป็นการสานสัมพันธ์ในระดับพรรคการเมืองแล้ว ยังได้หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-เวียดนาม และความร่วมมือในกรอบสมัชชารัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliamentary Assembly: AIPA) ด้วย

สำหรับคำถามเกี่ยวกับการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนามนั้น รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า ฝ่ายเวียดนามแจ้งความประสงค์ที่จะให้มีจัดขึ้นอีก ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศพร้อมที่จะเสนอรัฐบาลไทยว่าน่าจะมีการพบปะกันระหว่างคณะรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ ตนจะต้องนำขึ้นหารือกับนายกรัฐมนตรีต่อไป

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ