เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา 13.00-14.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนอีก 9 ประเทศ และ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันและหารือกับผู้แทนสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ASEAN-BAC) ซึ่งประกอบด้วยผู้นำภาคธุรกิจจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ที่โรงแรมดุสิตธานี อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
การพบหารือครั้งนี้เป็นกิจกรรมซึ่งจัดขึ้นประจำทุกปีเพื่อเป็นช่องทางให้ผู้นำภาคธุรกิจได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่อผู้นำอาเซียน ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญต่อการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียน
ในระหว่างการหารือ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงความสำคัญของบทบาทภาคธุรกิจในการสร้างประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกประสบสภาวะวิกฤต การร่วมแรงร่วมใจระหว่างภาครัฐและเอกชนอย่างใกล้ชิด และมีประสิทธิภาพจะเป็นหัวใจสำคัญที่ผลักดันและกอบกู้ให้ภูมิภาคกลับสู่ความแข็งแกร่งและเติบโตต่อไปอย่างมั่นคง ตลอดจนเร่งให้การรวมตัวทางเศรษฐกิจรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ผู้นำภาคธุรกิจได้รายงานต่อผู้นำอาเซียนถึงความร่วมมือสำคัญที่ ASEAN—BAC ได้ริเริ่มและผลักดันอย่างต่อเนื่อง อาทิ การอำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุนระหว่างกันในด้านศุลกากรที่เรียกว่า ASEAN Green Lane การส่งเสริมสินค้าภายใต้ตราอาเซียน (ASEAN brand) การมอบรางวัลธุรกิจดีเด่นของอาเซียน ( ASEAN Business Award ) แก่บริษัทที่มีบทบาทโดดเด่นในการส่งเสริมเติบโตทางเศรษฐกิจการจ้างงาน การริเริ่มนวัตกรรมใหม่ และการมีความรับผิดชอบต่อสังคม
นอกจากนี้ ผู้นำภาคธุรกิจได้เสนอแนะและขอให้ผู้นำอาเซียนสนับสนุนข้อริเริ่มในเรื่องการจัดตั้งบริษัทธุรกิจร่วมทุนระหว่างอาเซียนด้านการเกษตร (ASEAN Joint Venture Company) ในสาขาที่อาเซียนมีศักยภาพ เช่น ข้าว ยางพารา น้ำมันปาล์ม กาแฟ สับปะรด น้ำตาล การพัฒนาเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs รวมทั้งเสนอแนะให้ภาครัฐมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูและเป็นรากฐานรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างแข็งแกร่งหลังภาวะวิกฤตผ่านพ้นไป
ผู้นำอาเซียนและผู้นำภาคธุรกิจเห็นพ้องกันว่า ควรส่งเสริมให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะ SMEs เข้ามามีส่วนร่วมผลักดันและรับประโยชน์จากการก้าวไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอย่างจริงจังมากขึ้น โดยให้เลขาธิการอาเซียนเป็นช่องทางโดยตรงอีกทางหนึ่งในการประสานงานและสนับสนุนภาคเอกชนเข้ามีส่วนร่วมในกระบวนการรวมตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อความคล่องตัวและลดขั้นตอนการดำเนินการผ่านรัฐบาลของแต่ละประเทศ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--