กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูคาเรสต์ และสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำสหภาพยุโรป เกี่ยวกับข้อเท็จจริงกรณีสื่อท้องถิ่นโรมาเนียได้รายงานข่าวการตรวจพบสาร Botulinum Toxin Serotype B ในพนักงานก่อสร้างรวม 6 ราย ซึ่งมีอาการอาหารเป็นพิษ (Botulinism) ในช่วงวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ 2552 และเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่เมือง Pitesti แคว้น Arges ประเทศโรมาเนีย โดยต่อมามีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 รายเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2552 จึงมีการคาดการณ์ว่า สาเหตุเกิดจากการบริโภคปลากระป๋องที่นำเข้าจากไทย ทำให้ทางการโรมาเนียได้สั่งการกักปลากระป๋องตราดังกล่าวจากโกดังของผู้แทนจำหน่าย รวม 32,480 กระป๋อง
นาย Marian Zlotea ประธานหน่วยงานด้านสุขอนามัยสัตว์และความปลอดภัยทางอาหารแห่งชาติ (National Sanitary Veterinary and Food Safety Authority - ANSVSA) ของโรมาเนียได้ชี้แจงว่า ได้มีการสั่งเก็บตัวอย่างปลากระป๋องทั่วประเทศ 22 ตัวอย่าง ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบสาร Botulinum Toxin โดยผลการพิสูจน์พบว่า สาเหตุหลักของการเสียชีวิตของพนักงานก่อสร้างดังกล่าวข้างต้นคือการบริโภคผักสดที่มีสารพิษ นาย Zlotea ได้แสดงความเสียใจกับข่าวที่เกิดขึ้น และทาง ANSVSA ได้แถลงข่าวผลการตรวจวิเคราะห์อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าปลากระป๋องไม่ได้เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ Botulinum Toxin และทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตดังที่ปรากฎตามรายงานข่าว รวมทั้งจะอนุญาตให้ปลากระป๋องที่ถูกกักไว้ออกจำหน่ายได้ตามปกติ
ตลาดโรมาเนียเป็นตลาดใหม่ที่มีความสำคัญต่อสินค้าเกษตรไทย โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมามีการนำเข้าสินค้าชนิดใหม่จากไทยเพิ่มขึ้นมาก ปัจจุบันสินค้าปลากระป๋องจากไทยมีส่วนแบ่งในตลาดโรมาเนียมูลค่าประมาณ 6.12 ล้าน ยูโร จาก 21.19 ล้านยูโร ของการนำเข้าทั้งหมดในปี 2550 คิดเป็นร้อยละ 29 ทั้งนี้ การควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าอาหารไทยอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันปัญหากักกันสินค้า รวมทั้งรักษาและขยายตลาดในระยะยาว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--