เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2552 เวลา 15.00 น. นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับกำหนดการและการเตรียมการที่เกี่ยวข้องกับการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 เม.ย. 2552 ณ โรงแรม Royal Cliff เมืองพัทยา สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้:
ในชั้นนี้ ไทยได้รับการยืนยันการเข้าร่วมประชุมฯ จากผู้นำทุกประเทศแล้ว เว้นแต่ นายกรัฐมนตรีอินเดีย ซึ่งกำลังรอการยืนยันการเข้าร่วมด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ อย่างไรก็ดี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีอินเดีย ไม่สามารถเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมได้ นาย Kamal Nath รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมของอินเดีย จะเป็นผู้แทนพิเศษของอินเดียสำหรับการประชุมครั้งนี้
การประชุมจะเริ่มต้นในคืนวันที่ 10 เม.ย.2552 ด้วยการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำของผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน และในวันที่ 11 เม.ย. 52 ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนจะพบกับผู้นำจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลีเป็นรายประเทศในรูปของการหารือที่เรียกว่า “การประชุมสุดยอดอาเซียน+1” จากนั้น ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ก็จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี) และการประชุมสุดยอดอาเซียน+1 กับอินเดีย ในขณะที่ในวันที่ 12 เม.ย. 52 (ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุม) ก็จะมีการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) หรือที่เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่าการประชุมสุดยอด ASEAN+6 ซึ่งเป็นกลไกการหารือระหว่างประเทศอาเซียน 10 ประเทศกับประเทศคู่เจรจาของอาเซียน 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
คำขวัญของการประชุมครั้งนี้ คือ “ลงมือร่วมกันในการเผชิญกับปัญหาท้าทายโลก” โดยประเด็นสำคัญที่คาดว่าที่ประชุมจะหยิบยกขึ้นหารือกัน ได้แก่ การเสริมสร้างความร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินโลก การสร้างความมั่นคงทางอาหารและพลังงานชีวภาพ การเสริมสร้างขีดความสามารถในการจัดการกับภัยพิบัติ เป็นต้น
การประชุมครั้งนี้ คาดว่าจะมีเอกสารผลการประชุมทั้งหมดประมาณ 26 ฉบับ อาทิ แถลงการณ์พัทยาว่าด้วยความร่วมมือเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานชีวภาพในกรอบอาเซียนบวกสาม แถลงการณ์พัทยาว่าด้วยการจัดการภับพิบัติของการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ความตกลงว่าด้วยการยอมรับร่วมรายสาขาของอาเซียนสำหรับการตรวจผลิตภัณฑ์ยาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิต และความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้น
นอกจากนี้ ในวันที่ 12 เม.ย. 52 ก็จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ ครั้งที่สาม ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ผู้นำของประเทศสมาชิกอาเซียนและนาย Ban Ki-Moon เลขาธิการสหประชาชาติ จะพบเพื่อหารือกันในประเด็นระดับภูมิภาคและระดับโลกที่อาเซียนและสหประชาชาติมีผลประโยชน์ร่วมกัน อาทิ การพัฒนา การสร้างความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ/ภาวะโลกร้อน การจัดการภัยพิบัติ รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวกับวิกฤตการเงินโลก
ในโอกาสการประชุมครั้งนี้ ผู้นำของสถาบันการเงินและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ อาทิ ธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย และการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมการหารือกับผู้นำในระหว่างการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) ด้วย โดยสืบเนื่องจากการนี้ ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน จะเป็นเจ้าภาพร่วมกับรัฐบาลไทยจัดการประชุมหารือในประเด็นระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน (“ASEAN Global Dialogue”) ในคืนวันที่ 12 เม.ย. 2552 ณ กรุงเทพฯ ซึ่งการประชุมดังกล่าวจะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้อภิปรายซึ่งจะประกอบด้วยผู้นำจากสถาบันการเงินและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และผู้เข้าร่วมการประชุม ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์เกี่ยวกับปัญหาท้าทายของโลก ซึ่งส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อภูมิภาค โดยเฉพาะในเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจโลก
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--