กรณีลูกเรือประมงไทยตกค้างที่เยเมน

ข่าวต่างประเทศ Tuesday April 7, 2009 13:52 —กระทรวงการต่างประเทศ

ตามที่ปรากฏข่าวกรณีลูกเรือประมง จำนวน 44 คน ( ลูกเรือไทย 22 คน) ของเรือภูตินาวี 1 และภูตินาวี 4 ของบริษัท Ocean Wealth Marine ประสบปัญหาตกค้างที่ประเทศเยเมน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551 และต่อมาเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2552 ปรากฏข่าวว่ามีเหตุวิวาทในเรือ มีลูกเรือเสียชีวิต 1 คน นั้น กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนชี้แจงข้อมูล และการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ ในการให้ความช่วยเหลือลูกเรือไทย ดังนี้

1. เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2551 กระทรวงการต่างประเทศได้รับหนังสือจากบริษัท Ocean Wealth Marine ว่าเรือของบริษัท 2 ลำและลูกเรือ ซึ่งไปทำประมงที่โซมาเลียเครื่องยนต์ขัดข้อง และเข้าเทียบท่าที่เยเมนเพื่อซ่อมแซม แต่ผ่านมาระยะหนึ่งแล้วยังไม่สามารถซ่อมแซมได้ บริษัทฯ จึงต้องการขายเรือและส่งลูกเรือกลับประเทศไทย และขอให้สถานเอกอัครราชทูตไทยที่กรุงมัสกัต โอมาน (ไทยไม่มีสถานเอกอัครราชทูตที่เยเมน) ช่วยประมาณการค่าใช้จ่ายและออกเอกสารเดินทางกลับ ขณะเดียวกันนางนิศากร วรรณสุข ภริยาของนายนิรันดร์ วรรณสุข รักษาการกัปตันเรือ ได้มาร้องขอให้กระทรวงการต่างประเทศให้การช่วยเหลือนายนิรันดร์ ให้เดินทางกลับประเทศไทย ด้วยเช่นกัน

2. กระทรวงฯ ได้ส่งการให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต ประมาณการค่าใช้จ่ายและติดต่อกับนายนิรันดร์ฯ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งประมาณการให้บริษัทฯ ทราบ และได้ติดต่อนายนิรันดร์ฯ และคู่กรณีของบริษัท Ocean Wealth Marine โดยได้รับทราบว่า ลูกเรือต้องพำนักอาศัยในเรือโดยบริษัทเอเยนต์ของบริษัท Ocean Wealth Marine ในเยเมน เป็นผู้จัดหาน้ำและอาหารให้กับลูกเรือในเรือนายนิรันดร์ฯ อยู่ในเรือในฐานะล่าม

3. สถานเอกอัครราชทูต ฯ รายงานว่า เหตุที่ลูกเรือไทยตกค้าง เนื่องจากข้อพิพาททางธุรกิจระหว่างบริษัท Ocean Wealth Marine และบริษัทเอเยนต์ในเยเมนเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการซ่อมแซมเรือและค่าดูแลลูกเรือ ที่ยังไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ โดยบริษัท Ocean Wealth Marine เห็นว่าบริษัท

เอเยนต์เรียกร้องค่าใช้จ่ายเกินจริง ขณะที่บริษัทเอเยนต์ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเยเมน เพื่อให้มีการขายเรือ เพื่อมาชำระค่าใช้จ่าย ก่อนที่จะปล่อยตัวลูกเรือ

4. กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับบริษัทฯ เพื่อแจ้งประมาณการค่าใช้จ่าย และเร่งรัดให้บริษัทฯ แก้ไขปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่ติดค้าง และส่งลูกเรือกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด รวมทั้งได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี กรมประมง กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อทราบและพิจารณาดำเนินการเร่งรัดการเจรจา ทราบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ช่วยเจรจากับบริษัทฯ อีกทางหนึ่งด้วยแล้ว

5. กระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญผู้จัดการบริษัท Ocean Wealth Marine ไปพบเพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 12 และ 20 กุมภาพันธ์ 2552 บริษัทฯ แจ้งว่า บริษัทฯ กำลังเจรจาขายเรือทั้งสองลำให้กับบริษัทเอเยนต์ เพื่อยุติข้อขัดแย้ง โดยให้บริษัทเอเยนต์หักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และนำเงินส่วนที่เหลือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่งลูกเรือกลับประเทศไทย โดยอาจต้องใช้เวลาเล็กน้อยเกี่ยวกับดำเนินการขั้นตอนกฎหมาย แต่บริษัทฯ ยืนยันว่าจะรับผิดชอบในการส่งตัวลูกเรือกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด

6. เมื่อวันที่ 2-5 กุมภาพันธ์ 2552 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเยเมน เพื่อเยี่ยมลูกเรือไทย และหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเยเมนในการช่วยเหลือลูกเรือไทย ได้แก่ กรมประมง และกรมการท่าเรือของเยเมน รวมทั้งได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศเยเมน เพื่อช่วยเหลือลูกเรือไทย เอกอัครราชทูตไทยยังได้เข้าพบเอกอัครราชทูตเยเมน ประจำโอมาน เพื่อขอความร่วมมือในการคลี่คลายเรื่องนี้ และเร่งรัดการปล่อยลูกเรือไทยด้วย

กรณีมีลูกเรือเสียชีวิต

เมื่อ 25 มีนาคม 2552 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุวิวาทกันระหว่างลูกเรือ ลูกเรือคนหนึ่งถูกผลักตกเรือสูญหาย และพบศพในวันต่อมา ทางการเยเมนได้ควบคุมตัวกัปตันเรือกับลูกเรืออีก 1 คน ( ขอให้สงวนชื่อ) ซึ่งคาดว่าเป็นผู้ต้องสงสัย และสอบปากคำลูกเรือที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งห้ามลูกเรือคนอื่น ๆ เดินทางออกนอกประเทศ ระหว่างการสอบสวนคดีไม่แล้วเสร็จ

จากการสอบถามลูกเรือคนอื่นทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายเชิด ดัสกร (ใน seaman book ใช้ชื่อนายอนุรักษ์ มิ่งไทร) อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ไม่พบข้อมูลบุคคล ไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร สัญชาติใด สถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ตัวบุคคลต่อไป

สถานะล่าสุด

7. กระทรวงการต่างประเทศทราบจากบริษัท Ocean Wealth Marine ว่า บริษัทฯ สามารถตกลงเรื่องการซื้อขายเรือได้แล้ว และบริษัทเอเยนต์ได้ช่วยประสานกับทางการเยเมนเกี่ยวกับคดีด้วยแล้ว คาดว่าจะสามารถส่งลูกเรือกลับประเทศไทยได้ภายในช่วงกลางเดือนเมษายนนี้ ซึ่งกระทรวงฯ ได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปที่เยเมนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเตรียมการเรื่องเอกสารเดินทาง และประสานงานกับฝ่ายเยเมน เพื่อส่งกลับลูกเรือไทย รวมทั้งดำเนินการด้านเอกสารและการจัดการศพผู้เสียชีวิต (กรณีพิสูจน์ทราบว่าเป็นคนไทย)

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ