รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 9 ณ กรุงฮานอย ระหว่างวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2552
นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 9 (9th Asia-Europe Foreign Ministers’ Meeting —ASEM FMM 9) ระหว่างวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2552 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างเอเชียกับยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นสำคัญระหว่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการฯ ในฐานะประธานอาเซียนจะกล่าวถึงพัฒนาการในอาเซียนและการดำเนินการของไทย ในการมีบทบาทในฐานะประธานอาเซียน และการให้ความร่วมมือในระดับภูมิภาคและระดับโลก
หัวข้อหลัก (theme) ของการประชุม ASEM FMM 9 ครั้งนี้ คือ การส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนระหว่างเอเชียกับยุโรปเพื่อเผชิญหน้ากับวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลกและข้อท้าทายระดับโลกเรื่องอื่นๆ (Forging Closer Asia-Europe Partnership to Address the Financial and Economic Crisis and Other Global Challenges) ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ จะแจ้งให้ที่ประชุมทราบเรื่องความคืบหน้าของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทย โดยเฉพาะในเรื่องการดำเนินของไทยและอาเซียนเพื่อรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินโลก นับตั้งแต่การที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์- 1 มีนาคม 2552 ที่ชะอำ-หัวหิน ภายหลังจากที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน+3 สมัยพิเศษ ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบกับข้อเสนอให้มีการขยายวงเงิน CMIM จาก 8 หมื่นล้านดอลาร์สหรัฐ เป็น 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และให้มีการจัดตั้งหน่วยงานเฝ้าระวังระดับภูมิภาค (an independent regional surveillance unit) เพื่อติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ รวมทั้งผลการจัดประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน+3 อีกครั้ง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2552 ที่เกาะบาหลี รวมทั้งการเข้าร่วมการประชุม London Summit/G20 ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียน
ในหัวข้อเรื่องพัฒนาการในเอเชีย รัฐมนตรีว่าการฯ จะกล่าวนำโดยเน้นพัฒนาการในอาเซียน โดยเน้นการที่ไทยให้ความสำคัญจะผลักดันให้อาเซียนบรรลุเป้าหมายเรื่องการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนภายในปี 2558 การรับรองกฏบัตรอาเซียน อีกทั้งการยึดมั่นต่อการพัฒนาประชาธิปไตยในภูมิภาค เช่น การจัดตั้งกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียน การดำเนินการที่จะส่งผลให้องค์กร อาเซียนมีความเข้มแข็งและมีความหมายต่อประชาชน และให้ประชาชนมีความตระหนักในความเป็นพลเมืองของประชาคมอาเซียน ตลอดจนความพร้อมของไทยและอาเซียนที่จะมีบทบาท อย่างแข็งขันในเวทีระหว่างประเทศและมีปฏิสัมพันธ์กับประเทศและองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ มากยิ่งขึ้น
การประชุมครั้งนี้จะมีการหารือเรื่องสำคัญระหว่างประเทศอื่น ๆ อีก เช่นการพัฒนาอย่างยั่งยืนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน การป้องกันการแพร่ขยายของโรคติดต่อ การหารือระหว่างความเชื่อและวัฒนธรรม และการขยายสมาชิกภาพของอาเซม ทั้งนี้ ไทยได้มีบทบาทที่สำคัญในการผลักดันการแก้ไขปัญหาเรื่องต่างๆ ในกรอบอาเซียน รวมถึงการที่ไทยได้แสดงบทบาทนำในการจัดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน + 3 สมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2552 ภายหลังการระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ชนิด A (H1N1)
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ จะใช้โอกาสระหว่างการประชุมฯ หารือระดับทวิภาคีกับหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศสมาชิกทั้งฝ่ายเอเชียและยุโรป
อนึ่ง การประชุม ASEM FMM เป็นเวทีให้รัฐมนตรีต่างประเทศของเอเชียและยุโรปได้มีโอกาสพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเป็นกันเอง ซึ่งมีการจัดขึ้นทุกๆ 2 ปี โดยที่ผ่านมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยได้เข้าร่วมทุกครั้ง การประชุม ASEM FMM อยู่ภายใต้กรอบการประชุมเอเชีย-ยุโรป หรือ ASEM ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกฝ่ายยุโรปและเอเชียทั้งหมด 43 ประเทศ (เอเชีย 16 ประเทศ และยุโรป 27 ประเทศ) และ 2 องค์กร (คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป และสำนักเลขาธิการอาเซียน) ซึ่งนับตั้งแต่การก่อตั้ง ASEM ประเทศไทยมีส่วนร่วมในพัฒนาการของ การประชุมในกรอบ ASEM มาโดยตลอด โดยนอกจากจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ASEM ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 1-2 มีนาคม 2539 และเป็นประเทศผู้ประสานงาน ช่วงปี 2540-2543 จนถึงการประชุมสุดยอด ASEM ครั้งที่ 3 ที่กรุงโซลแล้ว ไทยยังเป็นผู้ริเริ่มโครงการต่างๆ อาทิ ศูนย์เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมเอเชีย-ยุโรป (Asia-Europe Environmental Technology Center - AEETC) ในประเทศไทย การเป็นเจ้าภาพการประชุมสภาธุรกิจเอเชีย-ยุโรป (Asia-Europe Business Forum - AEBF) ครั้งที่ 2 การร่วมบริจาค ASEM Trust Fund หลังช่วงวิกฤตการเงินในปี 2544 การเป็นเจ้าภาพ ASEM Youth Games เมื่อเดือนมิถุนายน 2548 การเข้าร่วมเป็น contributing partners ของโครงการทุนแลกเปลี่ยนนักศึกษา/อาจารย์ ASEM DUO Fellowship Programme ตั้งแต่ปี 2543 และล่าสุด ได้จัดโครงการ ASEM Interfaith Cultural Youth Camp เมื่อวันที่ 6-12 กุมภาพันธ์ 2552 ที่กรุงเทพฯ และจังหวัดอยุธยาซึ่งประสบผลสำเร็จด้วยดี
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--