เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2552 นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศและหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 9 ณ กรุงฮานอย เวียดนาม ประกอบด้วยนายยาน คอโฮต รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐเชก ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งประธานสหภาพยุโรป นายซัลมาน บาชีร์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน และนายอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐฟินแลนด์
ในการหารือกับรองนายกรัฐมนตรีคอโฮต ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสนับสนุนการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง และเร่งรัดให้มีการลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ขอให้สาธารณรัฐเช็กพิจารณายกเลิกการระงับการตรวจลงตราให้แรงงานจากไทยและประเทศอื่นๆ เนื่องจากแรงงานไทยเป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมสปาและร้านอาหาร รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า ไทยมีความต้องการผู้ฝึกสอนการดนตรีจากสาธารณรัฐเช็ก ตลอดจนธุรกิจการซ่อมแซมและผลิตเครื่องดนตรีในประเทศไทย สำหรับความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ทั้งสองฝ่ายหวังที่จะเห็นสหภาพยุโรปเข้าเป็นภาคีทางสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC) ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา และการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ศกนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือกันถึงพัฒนาการล่าสุดของพม่า ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีคอโฮตชื่นชมแถลงการณ์ที่ออกโดยไทยในฐานะประธานอาเซียนในเรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ย้ำถึงการสนับสนุนของไทย เพื่อนำไปสู่กระบวนการปรองดองแห่งชาติและการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยในพม่า รวมถึงการปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้การเลือกตั้งในพม่าในปีหน้าเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม
ในส่วนของการหารือทวิภาคีกับปลัดกระทรวงฯ บาชีร์ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมมือกันกระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือให้กว้างขวางขึ้นระหว่างไทยและปากีสถาน รัฐมนตรีว่าการฯ ขอบคุณฝ่ายปากีสถานที่เข้าใจประเทศไทยและสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภายใต้ของไทย และทุนการศึกษาที่มอบให้นักเรียนไทยไปศึกษายังปากีสถาน นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ย้ำถึงการสนับสนุนของไทยเพื่อให้ปากีสถานได้เข้าเป็นประเทศคู่เจรจาเต็มรูปแบบของอาเซียน จากในปัจจุบันที่ปากีสถานอยู่ในสถานะคู่เจรจาเฉพาะด้าน
ระหว่างการหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการฯ สตับบ์ ฝ่ายไทยได้สรุปสถานการณ์การเมืองไทยให้ทราบ รวมทั้งความพยายามของรัฐบาลไทยที่พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งหารือถึงพัฒนาการในปัจจุบันของอาเซียน และกระบวนการสร้างประชาคมอาเซียนให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะสนับสนุนความร่วมมือด้านพลังงานชีวภาพ พลังงานทดแทน เทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนาและการศึกษา อีกทั้งได้มีการหารือถึงการสนับสนุนระหว่างกันในเรื่องการสมัครเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนและสถานการณ์ในพม่า
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--