นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 มิถุนายน 2552 ตามคำเชิญของสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีและขยายความร่วมมือทวิภาคีระหว่างสองประเทศ
ในระหว่างการเยือน นายกรัฐมนตรีจะเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชา หารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จอัคคมหาธัมมโพธิสาลเจีย ซิม ประธานวุฒิสภากัมพูชา และสมเด็จอัคคมหาพญาจักรี เฮง สัมริน ประธานสภาแห่งชาติกัมพูชา
การเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาครั้งนี้ มิได้เป็นเพียงการเยือนเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีเท่านั้น แต่เป็นเครื่องยืนยันพันธกิจของไทยที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีและความร่วมมือฉันมิตรระหว่างสองประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยที่จะแสวงหาลู่ทางการแก้ไขปัญหาสำคัญต่าง ๆ ที่มีอยู่บนพื้นฐานของการเป็นประเทศเพื่อนบ้านและครอบครัวอาเซียน ทั้งนี้ ปัญหาที่สำคัญดังกล่าวรวมถึงปัญหาเขตแดนทางบกและทางทะเล ความร่วมมือในการรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน การพัฒนาและใช้ประโยชน์จากเครือข่ายเชื่อมโยงคมนาคมทางบก ความร่วมมือด้านพลังงาน การส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เพื่อให้สามารถช่วยกันจัดการกับปัญหาและสิ่งท้าทายต่าง ๆ อันเป็นผลสืบเนื่องจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาจะเป็นสักขีพยานในพิธีส่งมอบวัตถุโบราณศิลปะเขมรที่มีการลักลอบนำเข้ามาจากกัมพูชาและเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจยึดได้คืนให้แก่รัฐบาลกัมพูชาจำนวน 7 ชิ้น
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้มอบวัตถุโบราณแก่ผู้แทนรัฐบาลกัมพูชา ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการปฏิบัติตามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทย — กัมพูชาว่าด้วยการต่อต้านการเคลื่อนย้ายโดยผิดกฎหมายและการลักลอบขนข้ามแดนซึ่งสังหาริมทรัพย์ทางวัฒนธรรม และส่งคืนให้แก่ประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิดที่ได้ลงนามร่วมกันไว้ที่กรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2543
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--