การเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี

ด้วยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดจะเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2552 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนและสานต่อความร่วมมือทุกด้าน บนพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างกันที่แน่นแฟ้นอยู่แล้วทั้งในระดับผู้นำและประชาชน โดยเฉพาะการส่งเสริมความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มพูนความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาลและประชาชนจีนที่จะพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันให้บรรลุผลอย่างต่อเนื่อง

ในระหว่างการเยือนจีนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดจะพบหารือข้อราชการกับนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน และเข้าเยี่ยมคารวะนายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีน รวมทั้งมีกำหนดพบปะบุคคลระดับสูงทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจีน ตลอดจนนักธุรกิจรายสำคัญของจีน รวมถึงการเข้าร่วมงานกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของไทยแก่นักลงทุนและภาคธุรกิจจีน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีของสองประเทศจะเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงการขยายความร่วมมือทวิภาคีทางเศรษฐกิจและการค้าในเชิงกว้างและเชิงลึก (Agreement on Expanding and Deepening Bilateral Economic and Trade Cooperation - EDBETC) และความตกลงความร่วมมือด้านการศึกษา ซึ่งจะเป็นกรอบความร่วมมือทางการค้าและการศึกษาอย่างเป็นระบบ อันจะเป็นพื้นฐานปูทางไปสู่ความก้าวหน้าในความสัมพันธ์สองประเทศต่อไปในอนาคต

นอกจากการเยือนกรุงปักกิ่งแล้ว นายกรัฐมนตรียังมีกำหนดจะเยือนนครเทียนจิน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กรุงปักกิ่งและเป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือของจีน และมณฑลกวางตุ้งซึ่งมูลค่าการค้ากับไทยเป็นจำนวน 1 ใน 3 ของการค้ารวมสองประเทศและเป็นมณฑลที่มีรายได้สูงสุดของประเทศ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดจะพบหารือข้อราชการกับผู้นำนครเทียนจิน และผู้นำมณฑลกวางตุ้ง เพื่อกระชับและขยายความร่วมมือระหว่างไทยโดยเจาะลึก ไปสู่ความร่วมมือในระดับมณฑลและมหานครของจีนด้วย

ไทยกับจีนได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 ตลอดระยะเวลา 34 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีพัฒนาการที่ดีและราบรื่นอย่างต่อเนื่อง และมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดกันในทุกระดับ ความร่วมมือที่ได้พัฒนาไปโดยลำดับในทุกด้านนี้ได้พัฒนาไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ต่อกันในปี 2544 และต่อมาในปี 2550 ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามในแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ไทย-จีน ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือครอบคลุม 15 สาขาในระยะเวลา 5 ปี (2550-2554) ทั้งนี้ รัฐบาลไทยเชื่อมั่นว่า การเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้จะส่งผลอย่างสำคัญต่อการเพิ่มพูนและเติมเต็มความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของทั้งสองประเทศให้ยิ่งเกิดผลเป็นรูปธรรมและเอื้อประโยชน์ต่อกันและกันมากขึ้น ทั้งในด้านความสัมพันธ์ระดับรัฐบาล ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การศึกษาและสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของสองประเทศ

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--