เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2552 ระหว่างเวลา 11.15-13.10 น. ณ กระทรวงการต่างประเทศ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พบหารือทวิภาคีกับนายเซอร์เกย์ วิคโตโรวิช ลาฟรอฟ (Sergey V. Lavrov) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย.ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองได้ร่วมลงนามในแผนการหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของสองประเทศ ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเป็นเกียรติแก่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียด้วย
ในการแถลงข่าวร่วม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศระหว่างวันที่ 23-24 กรกฎาคม 2552 ภายหลังจากการเข้าร่วมการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับรัฐมนตรีต่างประเทศของคู่เจรจา (Post Ministerial Conferences: PMC) และการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 16 (16th ASEAN Regional Forum: ARF) ที่ภูเก็ต ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะได้นำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วังไกลกังวลในช่วงเย็นวันเดียวกันนั้น นอกจากนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้เข้าเยี่ยมคารวะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในช่วงเช้า และจะได้กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “ความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย และบทบาทของรัสเซียในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก” ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย
ในส่วนของการหารือทวิภาคี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ประเทศไทยและรัสเซียมีประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ยาวนานเป็นร้อยปี การหารือครั้งนี้เป็นการทบทวนสถานะความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย โดยสมบูรณ์แบบและครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษา การค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว และการบังคับใช้กฎหมาย โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงเรื่องที่คั่งค้างเพื่อเร่งรัดการพิจารณาความตกลงด้านต่างๆ อาทิ พิธีสารต่อเนื่องจากความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน เพื่อให้แล้วเสร็จในระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-รัสเซีย ครั้งที่ 4 ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 ที่กรุงเทพฯ ในชั้นนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับประเด็นอื่นๆ เช่น หนี้ข้าวที่รัสเซียค้างไทย พลังงาน ความร่วมมือด้านอวกาศและดาวเทียม และการส่งเสริมธุรกิจและการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งปัจจุบัน ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (EXIM Bank) ได้เปิดสำนักงานแล้วที่กรุงมอสโก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสรุปว่า สาระสำคัญของการหารือครั้งนี้คือการทบทวนสถานะความร่วมมือด้านต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้เป็นประโยชน์กับประชาชนไทยให้มากที่สุด
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--