สรุปผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6

ในระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2552 ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 โดยในวันที่ 4 สิงหาคม เป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ซึ่งมีปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทยและผู้ช่วยรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นประธาน ขณะที่ในวันที่ 5 สิงหาคม เป็นการประชุมเต็มคณะโดยมีนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและนายฮอร์ นัมฮอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือกัมพูชาเป็นประธานร่วมการประชุมประสบผลสำเร็จด้วยดี และดำเนินไปด้วยบรรยากาศที่เป็นมิตร สรุปสาระสำคัญการประชุม ดังนี้

ประเด็นการหารือในการประชุม JC ครั้งนี้ มี 3 สาขาหลักของความร่วมมือ ได้แก่ (1) ด้านการศึกษา สังคม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม (2) เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว และ (3) ด้านการเมืองและความมั่นคง ทุกเรื่องล้วนเกี่ยวข้องกับความร่วมมือในเชิงสร้างสรรค์ ตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนซึ่งไมตรีจิตและ การดำรงอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน ได้แก่ การที่ไทยจะช่วยเหลือพัฒนาถนนเส้นทางสาย 68 ซึ่งเริ่มจากช่องจอมจังหวัดสุรินทร์ไปถึงโอเสม็ดและกรอลันห์ เพื่อเชื่อมต่อไปถึงจังหวัดเสียมราฐของกัมพูชา เมื่อเส้นทางดังกล่าวสร้างเสร็จสมบูรณ์ ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งสำหรับคนไทยและคนกัมพูชาในการไปมาหาสู่กัน และเป็นโอกาสสำหรับการเพิ่มการค้าการลงทุนในอีสานใต้ของไทยและภาคเหนือของกัมพูชา

ในระหว่างการประชุมฯ กัมพูชาได้เสนอให้มีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่บริเวณจังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาและจังหวัดสระแก้วของไทย ซึ่งฝ่ายไทยรับจะพิจารณา โดยขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่ตั้งของจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ตามที่ฝ่ายกัมพูชาเสนอ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเปิดจุดผ่อนปรนแห่งใหม่ บริเวณบ้านโนนหมากมุ่น จ.สระแก้ว ตรงข้ามจุดผ่อนปรนบริเวณบ้านโอเบยเจือน จ.บันเตียเมียนเจยในกัมพูชาด้วย

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังรับทราบเรื่องการย้ายสถานกงสุลฯ ของกัมพูชาจาก อ. เมือง จ. สระแก้วไปยัง อ. อรัญประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพและความร่วมมือในการแก้ไขประเด็นชายแดนต่าง ๆ และรับทราบข้อริเริ่มของไทยที่จะเปิดสถานกงสุลใหญ่ที่เมืองเสียมราฐในกัมพูชาในอนาคตอันใกล้

สำหรับประเด็นที่เป็นปัญหาและอยู่ในความสนใจของสาธารณชน เช่น เขตแดนทางบกและทางทะเล ที่ประชุมครั้งนี้ได้รับทราบความคืบหน้าในการดำเนินการด้านต่าง ๆ ที่ผ่านมา และสนับสนุนให้กลไก ที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้โดยตรง อาทิ คณะกรรมาธิการร่วมเพื่อสำรวจและจัดทำเขตแดนทางบก (JBC) และคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย-กัมพูชา (Joint Technical Committee) ดำเนินงานร่วมกันอย่างแข็งขันต่อไป ที่สำคัญยิ่ง คือ การที่ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง และจะไม่ปล่อยให้สิ่งที่ ทำให้ไม่เข้าใจกันในประเด็นเล็กน้อยกลายเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการพัฒนาและการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันในภาพรวม

ความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชาได้ขยายไปอย่างกว้างขวางและหยั่งรากลึกในการประชุม JC ในแต่ละครั้งจะมีประเด็นความร่วมมือเพิ่มขึ้นทุกปี ในครั้งนี้ มีประเด็นความร่วมมือมากกว่า 80 ประเด็น เมื่อเทียบกับการประชุม JC ครั้งแรกในปี 2537 มีเพียง 31 ประเด็นความร่วมมือเท่านั้น

นอกจากนี้ ในการประชุม JC ครั้งนี้ ไทยและกัมพูชาได้หารือกันเรื่องการจัดกิจกรรมร่วมมือเพื่อฉลองโอกาสครบรอบ 60 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2553 ซึ่งจะเน้นความสัมพันธ์ในภาคประชาชนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและด้านสื่อสารมวลชน รวมถึงการจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางธรรมดาระหว่างกัน ซึ่งความสัมพันธ์อันดีในภาคประชาชนนี้ จะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับความเข้าใจอันดีระหว่างสองประเทศ

ในโอกาสดังกล่าว รัฐมนตรีทั้งสองได้ลงนามความตกลงว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับใช้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา (หรือความตกลงโอนตัวนักโทษ) ความตกลงนี้เป็นการเพิ่มความร่วมมือในด้านกระบวนการยุติธรรมระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในความร่วมมือในสาขาการยุติธรรมและการกงสุล ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งจะช่วยให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่คนสัญชาติไทยและกัมพูชาที่ต้องโทษมีโอกาสได้รับการโอนตัวกลับมารับโทษในประเทศของตน เพื่อปรับตัวกลับคืนสู่สังคมของตนได้

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2552 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้นำนายฮอร์ นัมฮองเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับกัมพูชาในภาพกว้าง และความสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในทุกระดับ เช่น ความร่วมมือในการเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ การเปิดถนนหมายเลข 48 (เกาะกง-สแรอัมเบิล) และ 67 (สะงำ-อันลองเวง-เสียมราฐ)

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--