การมีผลใช้บังคับสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐโปแลนด์ว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญา

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 15, 2009 15:25 —กระทรวงการต่างประเทศ

สนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐโปแลนด์ว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญาได้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2552 หลังจากที่ได้มีการลงนามสนธิสัญญาดังกล่าวโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของไทยและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของโปแลนด์ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2547 ที่กรุงเทพฯ และต่อมานายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ได้แลกเปลี่ยนสัตยาบันสารกับฝ่ายโปแลนด์ ที่กรุงวอร์ซอ เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2552 ซึ่งตามข้อ 20 วรรค 2 ของสนธิสัญญาดังกล่าวระบุว่าสนธิสัญญาฯ จะมีผลใช้บังคับภายหลังจากที่ได้มีการแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารระหว่างกันภายใน 30 วัน ซึ่งก็คือตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2552 เป็นต้นไป

สนธิสัญญาดังกล่าวถือได้ว่าเป็นอีกมิติของความพยายามระหว่างกันที่จะก่อให้เกิดความร่วมมือและเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านกระบวนการยุติธรรมระหว่างสองประเทศ โดยประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อวัตถุประสงค์หลักในการจัดทำสนธิสัญญาดังกล่าวซึ่งมุ่งที่จะช่วยให้รัฐภาคีให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการสืบสวนสอบสวน การฟ้องคดี หรือกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องทางอาญา ดังนั้น สนธิสัญญานี้จึงเป็นเสมือนกรอบความร่วมมือที่จะช่วยเสริมสร้างให้ความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายและการบริหารงานกระบวนการยุติธรรมระหว่างไทยกับโปแลนด์มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ