การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศและประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะจัดขึ้นในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา 15.15-16.30 น. ณ โรงแรมแชงกรี-ลา ประเทศสิงคโปร์ ภายหลังจากพิธีปิดการประชุมเอเปค โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียนจะทำหน้าประธานการประชุมร่วมกับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
การประชุมสุดยอดอาเซียนและสหรัฐฯ มีขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์กันที่มีมาอย่างยาวนานเกินกว่า 3 ทศวรรษ โดยอาเซียนและสหรัฐฯ เริ่มความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการเมื่อมีการประชุม ASEAN-US Dialogue ครั้งแรกเมื่อปี 2520 รัฐบาลสหรัฐฯ มีท่าทีที่จะให้ความสำคัญมากขึ้นกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังจะเห็นได้จากการที่สหรัฐฯ แต่งตั้งเอกอัครราชทูตกิจการอาเซียนเป็นประเทศแรก การเดินทางเยือนที่ทำการสำนักเลขาธิการอาเซียนที่กรุงจาการ์ตาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552 และการเดินทางเข้าร่วมการประชุม AMM/PMC ครั้งที่ 42 และการประชุม ARF ครั้งที่ 16 ที่ประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2552 ของ
นาง Hillary Clinton รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยในโอกาสดังกล่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ย้ำว่าสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับอาเซียนในฐานะหุ้นส่วนด้านการเมือง เศรษฐกิจ และยุทธศาสตร์ รวมทั้งแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับอาเซียนในประเด็นที่เป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งในกรอบทวิภาคีและในกรอบองค์การระหว่างประเทศในเรื่องต่างๆ และในโอกาสดังกล่าวสหรัฐฯ ยังได้ภาคยานุวัติสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia - TAC)
การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ ดังกล่าว จะเป็นการประชุมครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับผู้นำอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ จากปกติที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะพบหารือกับผู้นำอาเซียน 7 ประเทศที่เป็นสมาชิกเอเปค การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ ในครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างอาเซียนและสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมบทบาทของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งจะเป็นการส่งเสริมบทบาทของไทยในฐานะประธานอาเซียน
ในการแจ้งพัฒนาการในกรอบอาเซียนและเชิญชวนให้สหรัฐฯ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการเสริมสร้างการเป็นประชาคมอาเซียนภายในปี 2558 (ค.ศ. 2015)
ทั้งนี้ ผู้นำอาเซียนและผู้นำสหรัฐฯ จะมีโอกาสได้หารือในประเด็นต่างๆ ได้แก่ ความสัมพันธ์และทิศทางความร่วมมือในอนาคตของอาเซียน-สหรัฐฯ พัฒนาการเศรษฐกิจโลก รวมถึงวิกฤติการเงินและวิกฤติเศรษฐกิจ ความร่วมมือในกรอบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง APEC และ G20 สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์และการลดอาวุธ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการภัยพิบัติ โรคระบาด ความมั่นคงทางพลังงาน ความร่วมมือในด้านการต่อต้านการก่อการร้ายข้ามชาติ รวมทั้งจะมีการออก Joint Press Statement ของการประชุมดังกล่าวด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--