เมื่อวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2552 นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับเชิญจากสภาธุรกิจไทย-รัสเซีย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวปาฐกถาเปิดงานการประชุมความร่วมมือทวิภาคีด้านการค้าและการลงทุนระหว่างนักธุรกิจไทยกับนักธุรกิจรัสเซีย ที่โรงแรมแชงกรี-ลา ซึ่งเป็นกิจกรรมคู่ขนานกับการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-รัสเซีย (Thai-Russian Joint Commission on Bilateral Cooperation — JC) ครั้งที่ 4 ที่ได้จัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2552 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานร่วมของฝ่ายไทย และมี
นายเซอร์เกย์ ซาเบียนิน (Sergey S. Sobyanin) รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าสำนักรัฐบาลรัสเซีย เป็นประธานร่วมของฝ่ายรัสเซีย
ในการกล่าวเปิดงานการประชุมระหว่างนักธุรกิจสองประเทศดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้บรรยายสรุปสาระสำคัญของการหารือที่ได้มีกับรองนายกรัฐมนตรีฯ รัสเซีย ในระหว่างการประชุม JC ข้างต้นว่า ขณะนี้ รัสเซียอยู่ระหว่างการใช้แผนพัฒนาแห่งชาติเพื่อปรับปรุงเศรษฐกิจของประเทศให้ทันสมัย โดยกำหนดแนวทางการพัฒนาในสาขาสำคัญ 5 สาขา ได้แก่ (1) พลังงาน ซึ่งฝ่ายรัสเซียได้เชิญชวนให้บริษัทไทยไปลงทุนในการซื้อก๊าซธรรมชาติจากเกาะซาคาลินและคาบสมุทรคัมชัตก้าของรัสเซีย และร่วมลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าของบริษัทรัสเซียในประเทศเพื่อนบ้านของไทย (2) พลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งไทยยังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะใช้หรือไม่นั้น รัสเซียได้เสนอตัวเป็นแหล่งขององค์ความรู้และการอบรมบุคลากร (3) เวชภัณฑ์ รัสเซียมีเทคโนโลยีและนวัตกรรม ไทยจึงอาจร่วมกับรัสเซียในด้านวิจัยและพัฒนา (Research and development) และการลงทุนร่วม (4) อวกาศและสารสนเทศ รัสเซียได้ริเริ่มใช้ระบบนำร่องสากล หรือ GLONAS (Global Navigator System) ซึ่งไทยอาจสนใจที่จะร่วมมือกับรัสเซียเพื่อพัฒนาระบบ GPS ให้มีความสมบูรณ์ขึ้น รวมถึงการนำระบบ GLONAS มาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจสาขาต่าง ๆ อย่างหลากหลายได้ และ (5) เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ รัสเซียอยู่ระหว่างพัฒนา supercomputer และซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ซึ่งบริษัทไทยที่สนใจอาจร่วมลงทุนกับรัสเซียได้ สำหรับฝ่ายไทยเอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้บรรยายเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ (Stimulus Packages I & II) และเชิญชวนบริษัทรัสเซียมาร่วมลงทุนด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการพัฒนารถไฟ สนามบิน การสัญจรลุ่มแม่น้ำ การขนส่งชายฝั่งทะเล เพื่อเชื่อมต่อภูมิภาคอาเซียนเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้แนวคิด ASEAN Connectivity
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้ชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการค้าการลงทุนกับรัสเซียสำหรับนักธุรกิจไทย โดยในปีนี้ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ได้ไปเปิดบริษัท ไทย เอ็กซิม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด สาขากรุงมอสโก เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจส่งออกสินค้าไปรัสเซีย รวมถึงยังได้ลงนามความตกลงกับธนาคารรัสเซีย ได้แก่ ธนาคาร VTB หรือ Bank for External Trade, Promsvyazbank และ Lanta Bank เพื่อบริการเงินกู้ให้แก่นักธุรกิจรัสเซียในการนำเข้าสินค้าไทย นอกจากนี้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CP Food) ได้เปิดโรงงานผลิตอาหารสัตว์ขนาดใหญ่แถบชานเมืองของกรุงมอสโกแล้ว ทั้งนี้ ไทยเป็นประเทศที่เด่นด้านอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมด้านสุขภาพ ในขณะที่รัสเซียเป็นประเทศเมืองหนาวที่ยังผลิตสินค้าเกษตรได้ไม่มากนัก อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร ส่วนมากจะเป็นอุตสาหกรรมหนัก ดังนั้น โอกาสสำหรับไทยในรัสเซียจึงยังมีอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการแปรรูปสินค้าเกษตร การพัฒนาพลังงานทดแทน การผลิตและแปรรูปยาง สินค้าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องตกแต่งบ้าน และในด้านการท่องเที่ยว ชาวรัสเซียนิยมหนีอากาศหนาวไปพักผ่อนในประเทศแถบร้อน ในปี 2551 มีชาวรัสเซียเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยเป็นจำนวนกว่า 3 แสนคน แต่เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรรัสเซียทั้งประเทศจำนวนถึงกว่า 140 ล้านคนแล้วยังถือว่าน้อย ไทยยังสามารถขยายตลาดนี้ได้อีก โดยจะต้องพัฒนาความพร้อมของท่าอากาศยานและเปิดน่านฟ้าให้รองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เน้นย้ำด้วยว่า โอกาสการค้าการลงทุนกับรัสเซียมิได้มีเฉพาะในเมืองหลวงอย่างกรุงมอสโกเท่านั้น แต่ยังมีในเมืองใหญ่ ๆ อื่น อาทิ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองวลาดิวอสต็อกในเขตภาคตะวันออกไกล และเมืองนาวาซีเบียร์สในเขตไซบีเรีย เป็นต้น และบริษัทใหญ่ก็ได้ไปยึดหัวหาดไว้แล้ว สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยและกลาง ภาครัฐก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ด้วยการทำงานอย่างบูรณาการเพื่อส่งเสริมสินค้าของไทยในตลาดโลก ซึ่งเมื่อเดือนกันยายน 2552 ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจไทย-รัสเซีย เดินทางไปจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน (Road Show) ในรัสเซีย ที่กรุงมอสโก โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ได้นำคณะนักธุรกิจไทยไปเยือนเมืองวลาดิวอสต็อก เพื่อสำรวจและแสวงหาลู่ทางการค้าการลงทุนระหว่างกัน และประสบผลสำเร็จด้วยดียิ่ง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--