เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2552 นายชาญชัย เจียมบุญศรี อุปทูต ณ กรุงอิสลามาบัด และนาย Shaigan Shareef Malik รองปลัดกระทรวงมหาดไทยแห่งสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ได้แลกเปลี่ยนสัตยาบันสารความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานว่าด้วยความร่วมมือในการโอนตัวผู้กระทำผิดและการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา (ความตกลงโอนตัวนักโทษ) ณ อาคารสำนักงานกระทรวงมหาดไทยปากีสถาน กรุงอิสลามาบัด ซึ่งความตกลงดังกล่าวได้มีการลงนาม ณ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2550
การแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารเป็นผลให้ความตกลงฯ มีผลใช้บังคับทันที ตามที่ระบุไว้ในข้อ 16 ของความตกลงฯ โดยประเทศไทยมีพระราชบัญญัติการปฏิบัติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการดำเนินการตามคำพิพากษาในคดีอาญา พ.ศ. 2527 เป็นกฎหมายอนุวัติการความตกลงฯ
ประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อวัตถุประสงค์หลักในการจัดทำความตกลงดังกล่าวซึ่งมุ่งที่จะช่วยให้ผู้กระทำผิดสามารถปรับตัวกลับคืนสู่สังคมของตนได้ โดยความตกลงฯ กำหนดเงื่อนไขต่างๆ ที่อนุญาตให้ผู้กระทำความผิดได้รับการโอนตัวกลับไปยังประเทศของตนเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาที่เหลือ ภายหลังจากที่ผู้กระทำความผิดได้รับโทษจำคุกเป็นเวลาขั้นต่ำสุดตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายของรัฐผู้โอนแล้ว ดังนั้น ความตกลงฯ นี้จึงเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างให้ความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายและการบริหารงานกระบวนการยุติธรรมระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--