ประเทศไทยประกาศการสมัครเข้าเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council—HRC) วาระปี 2553 — 2556 (ค.ศ. 2010 — 2013) เพื่อสนองตอบนโยบายการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศของรัฐบาล โดยในวาระดังกล่าวมีตำแหน่งว่างสำหรับประเทศเอเชีย 4 ตำแหน่ง และมีประเทศที่ประกาศสมัครเข้าเป็นสมาชิกฯ แล้ว 5 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อิหร่าน กาตาร์ มัลดีฟส์ และไทย จึงเป็นการเลือกตั้งที่มีภาวะแข่งขัน ทั้งนี้ การเลือกตั้งจะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 2553 ณ นครนิวยอร์ก
รัฐบาลชุดปัจจุบันได้ให้ความสำคัญกับนโยบายการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศ ในขณะเดียวกันการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนก็เป็นส่วนสำคัญของนโยบายการต่างประเทศของไทย ดังเช่นที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลจะส่งเสริมการมีบทบาทร่วมกับประชาคมโลก ในเรื่องการกำหนดบรรทัดฐานระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการปกป้องรักษาและฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง การส่งเสริมและคุ้มครองค่านิยมประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม ตลอดจนร่วมมือในการแก้ไขปัญหาข้ามชาติทุกด้านที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของมนุษย์
คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติจัดตั้งเมื่อปี 2549 เป็นกลไกหลักในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในกรอบสหประชาชาติ มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม ติดตาม ตรวจสอบการอนุวัติพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของรัฐภาคี ป้องกันและตอบสนองต่อสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ ประกอบด้วยรัฐสมาชิกของสหประชาชาติจำนวน 47 ประเทศ และอยู่ในตำแหน่งคราวละ 3 ปี โดยมีการกระจายตำแหน่งตามสัดส่วนทางภูมิศาสตร์อย่างเท่าเทียมกัน
ตามข้อมติสมัชชาสหประชาชาติ ที่ 60/251 เรื่องคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนได้กำหนดให้ประเทศที่ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ จะต้องจัดทำเอกสารที่แสดงถึงการดำเนินการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ และคำมั่นโดยสมัครใจที่จะดำเนินการให้เกิดความก้าวหน้าในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในด้านต่างๆ หากได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้จัดทำเอกสารคำมั่นโดยสมัครใจด้านสิทธิมนุษยชนของไทย โดยมีเนื้อหาแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นคำมั่นโดยสมัครใจ (Voluntary Pledges and Commitments) ส่วนที่สองเป็นความก้าวหน้าของไทยในด้านสิทธิมนุษยชน (Contributions on human rights) เผยแพร่ให้ประเทศสมาชิกสหประชาชาติได้รับทราบ เพื่อประกอบการพิจารณาลงคะแนนเสียงเพื่อให้ไทยได้เป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน และการปฏิบัติตามคำมั่นต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบต่อเอกสารคำมั่นฉบับดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2553 กระทรวงการต่างประเทศจึงมีกำหนดเปิดตัวเอกสารคำมั่นฉบับนี้ต่อคณะทูตานุทูตและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในประเทศในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ศกนี้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--