เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2553 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน สมัยที่ 13 ในช่วงการหารือระดับสูงเกี่ยวกับร่างปฏิญญาสิทธิมนุษยชนศึกษาและการฝึกอบรม (Draft Declaration on Human Rights Education and Training) มีสาระสำคัญว่า ไทยให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนศึกษา การส่งเสริมความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนในการศึกษาทุกระดับจึงเป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นประเทศไทยในการลงสมัครรับเลือกตั้งเข้าเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน (Human Rights Council - HRC) ในวาระระหว่างปี ค.ศ. 2010-2013
รัฐบาลได้วางนโยบายให้การเรียนการสอนเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนเป็นกระบวนการระยะยาวตลอดช่วงชีวิต ซึ่งนอกจากจะเป็นเป็นกลไกป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่สำคัญแล้ว ยังเป็นกระบวนการเสริมสร้างประชาธิปไตย และธรรมาภิบาลภายในประเทศอีกทางหนึ่งด้วย
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมของกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การการประชุมอิสลาม (Organisation of Islamic Conference) และกล่าวต่อที่ประชุมถึงการดำเนินการที่ผ่านมาของรัฐบาลในจังหวัดภาคใต้ ซึ่งมีพัฒนาการที่ดีเป็นลำดับ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่าไทยจะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิก HRC ในวาระ ค.ศ. 2010 — 2013 และขอรับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิก OIC ด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้หารือทวิภาคีกับรองประธานาธิบดีโคลอมเบีย รัฐมนตรีด้านสิทธิมนุษยชนเยเมน รัฐมนตรีว่าการการะทรวงการต่างประเทศเซอร์เบีย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศแซมเบีย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศแอลเบเนีย เพื่อหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน รวมถึงการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ของไทยวาระปี ค.ศ. 2010-2013 ด้วย
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าพบผู้อำนวยการใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในการช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่แรงงานและลดผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเงิน รวมถึงเรื่องแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย
ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีว่าการฯ ในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน เกี่ยวกับร่างปฏิญญาสิทธิมนุษยชนศึกษาและการฝึกอบรม
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--