ในระหว่างการเดินทางเยือนนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศของผู้บริจาคเพื่อช่วยเหลือเฮติที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พบปะทวิภาคีกับนายอูร์มาส ไปต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐเอสโตเนีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2553 เพื่อได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ รวมถึงโอกาสของการขยายความร่วมมือในสาขาต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศไทยเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (creative economy) การพัฒนาพลังงานทางเลือก การศึกษา และความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจของสองประเทศ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเอสโตเนียยังได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยเยือนเอสโตเนียในโอกาสที่เหมาะสมด้วย
หลังจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบปะเสวนากับนักธุรกิจ นักวิชาการและผู้แทนองค์กรเอกชนที่เป็นสมาชิกของ Council on Foreign Relations ที่นครนิวยอร์ก โดยได้พูดคุยถึงประเด็นต่างๆ รวมถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ในโอกาสดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงเกี่ยวกับแนวนโยบายของรัฐบาลในด้านเศรษฐกิจและสังคม และได้ให้ความมั่นใจเกี่ยวกับด้วยว่า เศรษฐกิจของไทยได้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา การว่างงานอยู่ในระดับต่ำ การบริโภคเพิ่มสูงขึ้น และในปี 2552 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศยังคงเข้ามาเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนความมั่นใจของนักลงทุนชาวต่างประเทศต่อพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของไทย ทั้งนี้ สำหรับปี 2553 เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 4.5% นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้ย้ำถึงการดำเนินนโยบายของรัฐบาลเพื่อสร้างรัฐสวัสดิการในการส่งเสริมความมั่นคงของชีวิตของประชาชน อาทิ โครงการเรียนฟรี 15 ปี การให้เบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุ การขยายระบบประกันสุขภาพให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม และการประกันรายได้ให้แก่เกษตรกร ตลอดจนแผนการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพของระบบการศึกษาและสาธารณสุขของไทย ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ซึ่งจะสร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่ไทย ตลอดจนการดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรกับนักธุรกิจต่างประเทศ และความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ส่งเสริมความโปรงใสและหลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานของรัฐบาล
ในเย็นวันเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบปะกับชุมนุมไทยในนครนิวยอร์ก โดยได้กล่าวถึงนโยบายการดำเนินงานของรัฐบาลในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และในด้านการพัฒนาการเมืองในประเทศไทยตามครรลองของประชาธิปไตยและหลักกฎหมาย และยังได้ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศหลายสำนัก อาทิ นิตยสารนิวสวีค รอยเตอร์ส เอพี บลูมเบิร์ก และซีเอ็นเอ็น โดยได้กล่าวถึงประเด็นหลักๆ อาทิ การให้ความช่วยเหลือแก่เฮติในการฟื้นฟูประเทศหลังเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2553 ซึ่งสะท้อนถึงน้ำใจและความซาบซึ้งของคนไทยต่อความช่วยเหลือที่เคยได้รับจากประชาคมระหว่างประเทศในช่วงประสบภัยสึนามิ นโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลซึ่งเน้นการทำเพื่อประโยชน์แก่ประชาชนทุกคนเป็นสำคัญ และสถานการณ์การเมืองไทย โดยได้ย้ำความตั้งใจของรัฐบาลที่จะแก้ไขสถานการณ์การเมืองโดยยึดหลักการเจรจาและการดำเนินการภายในกรอบของรัฐสภา โดยเปิดกว้างรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายในสังคม แทนการประท้วงบนท้องถนน ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของสาธารณชนไทยที่ต้องการให้แก้ไขปัญหาโดยไม่ใช้ความรุนแรง นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้ตอบคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในพม่าที่กำลังจะมีการเลือกตั้งภายในปี 2553 โดยย้ำถึงท่าทีร่วมกันของอาเซียนที่ต้องการเห็นการเลือกตั้งที่เสรี ยุติธรรม และทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ซึ่งจะได้ใช้โอกาสช่วงการประชุมสุดยอดแม่น้ำโขงที่ชะอำ หัวหิน ระหว่างวันที่ 2-5 เมษายน 2553 และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 8-9 เมษายน 2553 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม หารือเพิ่มเติมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพม่าต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--