เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีของการประชุมเอสแคปสมัยที่ 66 เป็นวันที่สอง ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้กล่าวถ้อยแถลงรายประเทศภายใต้หัวข้อ “Key challenges to inclusive sustainable economic and social development in Asia and the Pacific”
ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้แสดงวิสัยทัศน์ของไทยต่อประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยื่นและครอบคลุม โดยชี้ให้เห็นว่าสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (MDGs) ในเอเชียและแปซิฟิก และกล่าวถึงบทบาทที่แข็งขันของไทยด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในระดับชาติและระดับอนุภูมิภาค โดยในระดับชาติ ไทยได้นำวาระการใช้พลังงานทดแทนบรรจุอยู่ในวาระแห่งชาติ ขณะที่ในระดับอนุภูมิภาค ไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง (Mekong River Commission Summit) ครั้งที่ 1 ซึ่งได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาลุ่มน้ำโขงในอนาคตเพื่อพัฒนาคุณภาพของน้ำในพื้นที่ดังกล่าว เกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและระบบการเงินนั้น ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้ยกเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่คำนึงถึงความเป็นดีอยู่ดีของประชาชนอยู่เสมอ ในประเด็นการพัฒนาเศรษฐกิจนั้น ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ กล่าวถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านการศึกษา ระบบสาธารณสุข รวมถึงมาตรการการปรับปรุงโครงข่ายความปลอดภัยทางสังคมซึ่งมีความเปราะบางและได้รับผลกระทบจากภายนอก โดยได้ยกตัวอย่างของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยที่เน้นการปฎิรูปการศึกษา การยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพและสวัสดิการผ่านการลงทุนเพื่อที่จะเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนทุกคน และได้ย้ำว่าไทยจะร่วมมือกับประเทศสมาชิกเพื่อร่วมกันหามาตรการที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับปัญหาสังคม เช่น การค้ามนุษย์ และโรคเอดส์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้ย้ำถึงความสำคัญของความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค ซึ่งรวมถึงสาธารณูปโภคทางด้านกายภาพ ประชาชนสู่ประชาชน และด้านสารสนเทศ และให้คำมั่นว่าไทยจะร่วมมือกับสมาชิกเอสแคปทุกประเทศในการรับมือกับสิ่งท้าทายและเพื่อบรรลุ MDGs นอกจากนี้ จะทุ่มเทความพยายามเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ตลอดจนการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อประโยชน์ของลูกหลานทุกคนในอนาคต
ในวันเดียวกัน ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้เข้าร่วมพิธีลงนามความตกลงร่วมมือ Regional Integrated Multi-Hazard Early Warning System (RIMES) for Africa and Asia ซึ่งไทยและสวีเดนเป็นสองประเทศผู้บริจาคหลักของกองทุน Tsunami Trust Fund โดยมี ดร. Noeleen Heyzer เลขาธิการบริหารของเอสแคปและนาย Ali Shareef เลขานุการของ RIMES เข้าร่วมพิธีลงนามฯ และผู้แทนจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมเป็นสักขีพยานกว่า 50 คน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--