เมื่อวันที่ 17-18 พฤษภาคม 2553 นายณัฐวัฒน์ กฤษณามระ ผู้อำนวยการกองสังคม และเจ้าหน้าที่กองการสังคม กรมองค์การระหว่างประเทศ และพันเอกกฤษณะ บวรรัตนารักษ์ ผู้อำนวยการกองกฤษฎีกาทหารและการต่างประเทศ กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปจังหวัดยะลา ตามคำเชิญของกรมข่าวทหารบก เพื่ออบรมเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเรื่องสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 5
ในวันแรก คณะวิทยากรได้รับฟังข้อคิดเห็นและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจที่เคยได้รับการอบรมเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นแนวทางให้ทั้งฝ่ายในพื้นที่และฝ่ายนโยบายปรับปรุงการทำงาน เพื่อให้สิทธิของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะสิทธิของเด็ก สตรี และผู้พิการ ได้รับการคุ้มครองและส่งเสริมอย่างมากที่สุด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของประชาชนทุกชีวิต แม้จะตกอยู่ภายใต้บรรยากาศของความกดดันจากสถานการณ์ในพื้นที่
ในวันที่สอง คณะวิทยากรจากกระทรวงการต่างประเทศได้บรรยายเรื่อง “สิทธิมนุษยชน องค์การระหว่างประเทศ และปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้” ให้แก่ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ และทหารพราน ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมการอบรมดังกล่าว โดยได้เน้นว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคง ไม่เพียงแต่ต้องระวังการละเมิดสิทธิของประชาชน แต่มีหน้าที่ที่จะคุ้มครองดูแลความปลอดภัยของประชาชน เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างปกติสุขที่สุด
นอกจากนี้ คณะวิทยากรจากกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้แจ้งพัฒนาการเกี่ยวกับบทบาทของไทยในเรื่องสิทธิมนุษยชนในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการที่ไทยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2553 และการที่รัฐบาลไทยต้องจัดทำรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนเสนอต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนในปลายปี 2554 ดังนั้น ทุกภาคส่วนจึงต้องเพิ่มความตระหนักในเรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะประชาคมระหว่างประเทศมีความคาดหวังต่อไทยในฐานะสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน ซึ่งต้องปฏิบัติตนให้ได้ตามมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน
การอบรมเรื่องสิทธิมนุษยชนครั้งนี้กองทัพบกและกระทรวงการต่างประเทศได้ร่วมมือกันจัดขึ้นติดต่อเป็นปีที่ 3 และจะดำเนินการต่อไปเป็นโครงการต่อเนื่องในทุกปี เพื่อเพิ่มความรู้ในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนให้แก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวที่ยังอาจขาดความรู้ความเข้าใจในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี ทั้งนี้ จากการประเมินผลของการอบรมเรื่องสิทธิมนุษยชนในครั้งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมมีความเห็นว่า ได้รับความรู้ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำงานเป็นอย่างมาก
กิจกรรมของกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับทางกองทัพบกในครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลไทยชุดปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนภายในกรอบของกฎหมายภายในและพันธกรณีระหว่างประเทศ ซึ่งการให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องสิทธิมนุษยชนต่อเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายทั้งทหารและตำรวจเป็นความสำคัญลำดับต้นของนโยบายสิทธิมนุษยชนของไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--