เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2553 นางสาววิมล คิดชอบ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า จากการที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศแนวทางนำประเทศกลับคืนสู่ความสงบเรียบร้อย แก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยยึดหลักนิติรัฐ และยังคงเน้นการดำเนินการตามแผนการปรองดองที่ได้เคยเสนอไว้ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ กับสถานทูตไทย สถานกงสุลไทย และสำนักงานของกระทรวงฯ ทุกแห่งในต่างประเทศ ได้ดำเนินการชี้แจงสภาพที่เป็นจริงในประเทศไทย รวมทั้งแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลให้มิตรประเทศและองค์การระหว่างประเทศทราบแล้วนั้น ปรากฏว่า มิตรประเทศและองค์การในต่างประเทศหลายแห่งได้แสดงท่าทีเข้าใจในสถานการณ์ สนับสนุนรัฐบาลไทยในการดำเนินการเพื่อความปรองดองและความสงบเรียบร้อย โดยยึดหลักกฎหมายและไม่ใช้ความรุนแรง และหลายฝ่ายในต่างประเทศได้ให้กำลังใจและแสดงความหวังว่าประเทศไทยจะสามารถผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดีในที่สุด อนึ่ง เมื่อสถานการณ์ในกรุงเทพฯ ได้สงบลงแล้ว ล่าสุดวันนี้ (25 พ.ค.) ทางการบางประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และสาธารณรัฐเช็ก ก็ได้เริ่มปรับลดระดับคำเตือนนักท่องเที่ยวชาติตนเกี่ยวกับการมาเยือนประเทศไทย ไปในทิศทางที่เป็นบวกขึ้น
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยด้วยว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2553 วุฒิสภาแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ลงมติโดยเอกฉันท์ เห็นชอบให้ผ่านข้อมติเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย ตามที่วุฒิสมาชิก Jim Webb (พรรคเดโมแครต มลรัฐเวอร์จิเนีย) เสนอ มีสาระสำคัญยืนยันการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อความเป็นพันธมิตรกับประเทศไทย สนับสนุนแนวทางแผนการปรองดองเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้โดยสันติ สำหรับท่าทีของสหภาพยุโรปนั้น ที่ประชุมเต็มคณะของสภายุโรป ได้ผ่านข้อมติเกี่ยวกับประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2553 แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในไทย และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นและยุติความรุนแรงทางการเมือง และให้เร่งหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ตามแนวทางประชาธิปไตย ขณะเดียวกันสภายุโรปก็รับทราบด้วยว่านายกรัฐมนตรีได้เสนอกระบวนการปรองดอง รวมทั้งยินดีที่ได้เห็นว่ารัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้น และสนับสนุนการที่หน่วยงานไทยได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิต กับยืนยันว่า สภายุโรปจะสนับสนุนประชาธิปไตยในไทยต่อไปโดยคำนึงถึงสัมพันธภาพอันดียิ่งระหว่างสหภาพยุโรปกับประเทศไทย นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2553 บารอนเนส แคเธอรีน แอชตัน ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศ (ทำหน้าที่เทียบได้กับรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป) ก็มีถ้อยแถลงแสดงความเศร้าใจต่อการสูญเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และเห็นว่าขณะนี้จำเป็นยิ่งที่จะต้องมีการปรองดองแห่งชาติ สหภาพยุโรปหวังว่าไทยจะมองไปข้างหน้าและแสวงหาทางออกที่ปฏิบัติได้ บนพื้นฐานแผนการปรองดองของนายกรัฐมนตรี และกล่าวด้วยว่า ในฐานะ มิตรของไทย สหภาพยุโรปพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการดำเนินกระบวนการสรรค์สร้างฉันทามติอันจะนำไปสู่ความปรองดองแห่งชาติ
สำหรับท่าทีของมิตรประเทศเพื่อนบ้าน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า ล่าสุด ดาโต๊ะ ซรี อะนิฟาห์ อามาน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย ได้มีหนังสือมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยินดีที่ได้เห็นความพยายามของรัฐบาลไทยในการนำความเป็นปกติกลับคืนสู่กรุงเทพมหานคร และยังได้สนับสนุนแผนการปรองดอง ว่าแสดงถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลไทยและนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหา มาเลเซียยินดีที่ได้ทราบว่าแผนการปรองดองได้รับการตอบสนองในทางบวกจากหลายภาคส่วนในสังคมไทย และหวังว่าประเทศไทยจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยดีต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--