นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศในภูมิภาคยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส เบลเยียม ออสเตรีย สโลวัก และสหภาพยุโรป พร้อมทั้งเข้าร่วมการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยประจำภูมิภาคยุโรป ระหว่างวันที่ 21-26 มิถุนายน 2553 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศในภูมิภาคยุโรปให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมทั้งใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงและสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง และเศรษฐกิจไทยด้วย
ในระหว่างการเยือนฯ รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดพบหารือข้อราชการกับบุคคลสำคัญฝ่ายต่างประเทศ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนฝ่ายนิติบัญญัติ และองค์กรระหว่างประเทศ ดังนี้
ฝรั่งเศส (21-22 มิถุนายน 2553) รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดพบหารือกับบุคคลภาครัฐบาล และภาคเอกชนของฝรั่งเศสเพื่อย้ำความเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่แน่นแฟ้นระหว่างกัน และเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทยและสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคเอกชนของฝรั่งเศสที่มาลงทุนในไทย ตลอดจนชักชวนฝรั่งเศสให้เข้ามามีบทบาทในความร่วมมือไตรภาคีร่วมกับไทยเพื่อการพัฒนาในกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และในภูมิภาคแอฟริกาด้วย โดยรัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส และผู้แทนบริษัทเอกชน อาทิ Alcatel, Michelin และ Tractable
ในการเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดจะลงนามแผนปฏิบัติการร่วมไทย-ฝรั่งเศส ฉบับที่ 2 ประจำปี 2553-2557 ซึ่งเป็นกรอบกำหนดรูปแบบความร่วมมือทวิภาคีอย่างเป็นรูปธรรมในหลายหลากมิติ และความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตด้วย
เบลเยียมและสหภาพยุโรป (22-23 มิถุนายน 2553) รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดพบหารือบุคคลสำคัญของสหภาพยุโรป รัฐบาลเบลเยียม และผู้นำภาคประชาสังคม อาทิ กรรมาธิการยุโรปด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ กรรมาธิการยุโรปด้านการค้า รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเบลเยียม ประธานของ International Crisis Group รวมทั้งประธานของ International Federation for Human Rights
รัฐมนตรีว่าการฯ จะใช้โอกาสเยือนฯ ชี้แจงและสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง/ เศรษฐกิจไทย โดยย้ำถึงความสำคัญของสหภาพยุโรปในฐานะคู่ค้าและผู้ลงทุนรายสำคัญของไทย พร้อมทั้งขอความร่วมมือฝ่ายสหภาพยุโรป ในประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อสินค้าส่งออกของไทยไปยังสหภาพยุโรป รวมทั้งจะมีการลงนามและแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารสำหรับสนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องอาญา และสนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญาระหว่างไทยกับเบลเยียมด้วย
ออสเตรีย (23-25 มิถุนายน 2553) รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดพบหารือกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีวิทยาศาสตร์และวิจัย ประธานวุฒิสภา รวมทั้งรองประธานหอการค้าออสเตรียและคณะนักธุรกิจของออสเตรีย โดยจะเน้นประเด็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้ากับฝ่ายออสเตรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (SMEs) ของทั้งสองประเทศ รวมทั้ง ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษาและวิจัย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทย รวมทั้งการใช้ออสเตรียเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าไทยไปยังยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกด้วย
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ยังมีกำหนดการพบกับผู้บริหารขององค์การระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนา อาทิ ผู้อำนวยการใหญ่ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency - IAEA) และผู้อำนวยการใหญ่องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nation Industrial Development Organization - UNIDO) รวมทั้งมีกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุม Permanent Council (PC) ขององค์การความร่วมมือและความมั่นคงในยุโรป (Organization for Security and Cooperation in Europe - OSCE) ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือด้านความมั่นคงระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในโลก และไทยเป็นประเทศอาเซียนเพียงประเทศเดียวที่ได้รับสถานะเป็นหุ้นส่วนเพื่อความร่วมมือฝ่ายเอเชีย
สโลวัก (25 มิถุนายน 2553) รัฐมนตรีว่าการฯ จะมีกำหนดพบกับกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำสโลวัก เพื่อหารือและมอบนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ในมิติต่างๆ ระหว่างไทยกับสโลวัก ซึ่งถือเป็นตลาดใหม่ของไทยในภูมิภาคยุโรป รวมทั้ง จะได้ใช้โอกาสดังกล่าว ศึกษาดูงานเกี่ยวกับศักยภาพด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของสโลวัก ที่จะเป็นประโยชน์แก่ภาคเอกชนของไทยด้วยนอกจากการพบหารือกับบุคคลสำคัญของภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศดังกล่าวแล้ว รัฐมนตรีว่าการฯ จะเป็นประธานในการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยประจำภูมิภาคยุโรป ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมระหว่างไทยกับประเทศในยุโรป โดยจะมีนายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าร่วมการประชุมในโอกาสดังกล่าวด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--