เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2553 นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปิดท้ายการเดินทางเยือนภูมิภาคยุโรปอย่างเป็นทางการด้วยการเป็นประธานในการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยประจำภูมิภาคยุโรป เพื่อหารือเกี่ยวกับการชี้แจงแก่ประชาคมระหว่างประเทศในเรื่องสถานการณ์การเมืองไทย รวมทั้งการขยายลู่ทางความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษาและสถาบันวิจัยเชิงนโยบายกับประเทศในภูมิภาคยุโรปตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศที่มีสำนักงานอยู่ในยุโรป อาทิ ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) และองค์กรเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD)
ในโอกาสดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีว่า เป็นปัจจัยที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมแห่งความรู้ และช่วยเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้แก่ภาคการผลิตของไทย โดยภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคเอกชนควรทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นองค์รวม เพื่อสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงวิทยาศาสตร์ประยุกต์กับการพาณิชย์ และเพื่อให้เกิดการนำผลการวิจัยมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ความร่วมมือในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดังกล่าวกับประเทศต่างๆ จะเป็นการเพิ่มมิติความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับต่างประเทศให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงจุดยืนของไทยในการตะหนักถึงและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาโลกร้อนด้วย
การประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ประจำภูมิภาคยุโรปดังกล่าวมีเอกอัครราชทูตและผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยเข้าร่วมกว่า 15 แห่ง โดยนอกจากประเทศในภูมิภาคยุโรปแล้ว ยังมีสถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศภูมิภาคใกล้เคียงที่มีความก้าวหน้าในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น อิสราเอล เข้าร่วมการประชุมด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--