นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกำหนดจะเดินทางไปร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (AMM) ครั้งที่ 43 การประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา (PMC) การประชุมว่าด้วยการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (ARF) ครั้งที่ 17 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 19-23 กรกฎาคม 2553 ที่กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมประจำปีของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจาที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประเทศ ในเอเชียแปซิฟิก โดยมีประเทศเข้าร่วมรวม 26 ประเทศ และ 1 องค์กร ประกอบด้วยประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ประเทศคู่เจรจา 9 ประเทศและ 1 องค์กร (สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย อินเดีย และสหภาพยุโรป) และประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอีก 7 ประเทศ (ปาปัวนิวกินี มองโกเลีย เกาหลีเหนือ ปากีสถาน ติมอร์-เลสเต บังกลาเทศ และศรีลังกา)
นอกจากนี้ เวียดนามกำหนดจัดการประชุมคู่ขนาน ในกรอบต่าง ๆ เพิ่มเติมจากการประชุมปกติ 3 รายการ คือ (1) การหารือระหว่างอาหารกลางวันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับรัฐมนตรีการค้าเกาหลีใต้ เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอด G20 ที่กรุงโซล (2) การประชุมระดับรัฐมนตรีแม่โขง-ญี่ปุ่น และ (3) การหารือระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กับประเทศลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง คือ ไทย กัมพูชา ลาว และเวียดนาม
ประเด็นหลักของการประชุมจะเน้นการร่วมมือกันนำพันธกรณีต่างๆ ที่ตกลงกันไว้มาปฏิบัติ และดำเนินการให้มีผลบังคับใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายในการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนภายในปี 2558 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าประสงค์หลักที่เวียดนามกำหนดไว้สำหรับการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของเวียดนาม คือ “มุ่งสู่ประชาคมอาเซียน: จากวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติ” (Towards the ASEAN Community : From Vision to Action)
ในเชิงสารัตถะนั้น ในระหว่างการประชุมจะมีการหารือในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎบัตรอาเซียนและแผนงานสำหรับประชาคมอาเซียน การเสริมสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงในภูมิภาค การแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นปัญหาระหว่างประเทศ การหารือเกี่ยวกับโครงสร้างความสัมพันธ์ในภูมิภาค (regional architecture) การประสานท่าทีของประเทศสมาชิกอาเซียนในประเด็นปัญหาท้าทายระดับโลก (global issues) เช่น การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น
เอกสารสำคัญที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมฯ ครั้งนี้ มีจำนวนรวมประมาณ 20 รายการ ที่สำคัญ ได้แก่ แผนงาน 5 ปีสำหรับการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (ASEAN Intergovernmental Commission on Human Rights — AICHR) รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับแผนงานในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาทั้งในกรอบอาเซียน-แคนาดาที่ไทยเป็นประเทศผู้ประสานงาน และอาเซียน-นิวซีแลนด์ ตลอดจนจะมีการลงนามในร่างสารขยายจำนวนภาคีสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia - TAC) เพื่อรับตุรกีและแคนาดาเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาฯ และพิธีสารฉบับที่ 3 แก้ไขสนธิสัญญาฯ เพื่อให้สามารถรับสหภาพยุโรปเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาฯ ได้ในอนาคตด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--