รัฐบาลไทยยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2553 นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ร่วมการอภิปรายในหัวข้อ "กลไกและมาตรการการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตระดับสากล" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอบรมในหลักสูตร "นักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง รุ่นที่ 1" จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพฯ

ในการอภิปราย รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เน้นย้ำการส่งเสริมธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และขจัดการทุจริตในการบริหารราชการเป็นอย่างมาก ดังเช่นที่เคยมอบแนวทางการทำงาน 9 ประการให้คณะรัฐมนตรียึดถือ

เกี่ยวกับการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตระดับสากล สังคมโลกมีความตื่นตัวเกี่ยวกับการทุจริตมาตั้งแต่ปี 2523 โดยแบ่งเป็นรูปแบบการทุจริตที่สำคัญ ได้แก่ (1) การทุจริตยักยอกเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาจากประเทศที่พัฒนาแล้ว (2) การทุจริตที่กระทำโดยบริษัทข้ามชาติที่ติดสินบนเจ้าพนักงานของรัฐและนักการเมืองในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อผลประโยชน์ด้านการลงทุน (3) ธุรกิจการ ฟอกเงิน และ (4) กระบวนการหนีภาษี ซึ่งการทุจริตทั้งหมดจะเป็นปัจจัยส่งเสริมกลุ่มผู้มีอิทธิพลนอกกฎหมาย อาชญากรรมข้ามพรมแดน และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

รัฐมนตรีว่าการฯ เน้นว่า สองสิ่งที่สามารถใช้ในการต่อกรกับการทุจริต คือ อำนาจกฎหมาย (Legal Authority) และทศพิธราชธรรม (Moral Authority) ซึ่งต้องยึดถือปฏิบัติควบคู่กันไป อำนาจกฎหมายนั้นสามารถบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร และให้ผู้คนปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดได้ ซึ่งจะต่างจากทศพิธราชธรรมซึ่งไม่มีข้อจำกัดความแน่ชัด ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันแก้ไข การอบรมสั่งสอนและปลูกฝังแนวคิดที่ถูกต้องตั้งแต่ระดับเยาวชน ซึ่งในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เชิญชวนให้ต่างประเทศช่วยถ่ายทอดประสบการณ์และแนวทางแก่ประเทศไทยมาโดยตลอด

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--