เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2553 นายว่าน ชิ่งเหลียง รองผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้งและนายกเทศมนตรีนครกวางโจว เข้าเยี่ยมคารวะนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมประชุมคณะทำงานเพื่อความร่วมมือไทย-มณฑลกวางตุ้ง ครั้งที่ 1 ที่กระทรวงการต่างประเทศ
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวว่าสนับสนุนการลงทุนร่วมกันระหว่าง SME ของไทยกับมณฑลกวางตุ้ง เนื่องจากการลงทุนของไทยที่มลฑลกวางตุ้งมีแต่การลงทุนขนาดใหญ่ เช่น การลงทุนของบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ รัฐมนตรีว่าการฯ ยินดีที่รัฐบาลมณฑลกวางตุ้งได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเซียนเกมส์ และขอให้การจัดการแข่งขันดังกล่าวประสบผลสำเร็จสูงสุด รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ตอบรับที่จะเดินทางไปเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันฯ ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2553 แล้ว
นายว่าน ชิ่งเหลียง กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการเดินทางมาเยือนประเทศไทยว่ามีอยู่ 3 ประการด้วยกัน ได้แก่ การเข้าร่วมประชุมคณะทำงานฯ การหารือเรื่องนำเข้าผลไม้ไทยไปสู่การแข่งขันเอเซียนเกมส์ที่นครกวางโจว และการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพของมณฑลกวางตุ้งให้ประชาชนชาวไทยได้รับทราบ
รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า ฝ่ายไทยรู้สึกเป็นเกียรติที่ฝ่ายกวางตุ้งใช้ผลไม้ไทยในการส่งเสริมกีฬาเอเซียนเกมส์ ซึ่งภารกิจที่สำคัญของฝ่ายไทยได้แก่การจัดหาผลไม้ที่ได้คุณภาพ สำหรับผลไม้ไทยที่จะนำไปสู่เอเซียนเกมส์ ได้แก่ มะม่วง ส้มโอ กล้วยไข่ มะพร้าวอ่อน ลำไย ชมพู่ และทุเรียน
ต่อจากนั้น ได้มีการประชุมคณะทำงานเพื่อความร่วมมือไทย-มณฑลกวางตุ้ง ครั้งที่ 1 มีนายธีรกุล นิยม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานคณะทำงานฯ ฝ่ายไทย และนายว่าน ชิ่งเหลียง รองผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้งและนายกเทศมนตรีนครกวางโจว เป็นประธานคณะทำงานฝ่ายมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งปลัดกระทรวงฯ กล่าวว่า ประเทศไทยและมณฑลกวางตุ้งจะเปิดศักราชใหม่แห่งความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยใช้กลไกคณะทำงานเพื่อความร่วมมือไทย-มณฑลกวางตุ้ง
การประชุมครั้งที่ 1 ที่ประชุมฯ ได้บรรลุผลสำเร็จหลายประการ โดยเฉพาะการที่นายกรัฐมนตรีไทยจะเดินทางไปเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่นครกวางโจว ในเดือนพฤศจิกายน 2553 ตามคำเชิญของฝ่ายจีน โดยมณฑลกวางตุ้งจะให้ความร่วมมือกับไทยให้ใช้โอกาสดังกล่าวประชาสัมพันธ์และนำเข้าผลไม้ไทยมากขึ้น ซึ่งจะมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จำนวน 14,000 คน จาก 45 ประเทศในเอเชีย รวมทั้ง กองเชียร์และนักท่องเที่ยว อีกราว 10 ล้านคนไปร่วมงานแข่งขันฯ
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้กำหนดเป้าหมายและแผนการดำเนินงานความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมในช่วง 1 ปีข้างหน้า จำนวน 6 สาขา ได้แก่
(1) การค้า กำหนดเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันในปี 2554 ร้อยละ 10 ของมูลค่าการค้าในปี 2553 และจัดให้มีจุดประสานงานร่วมเพื่อแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการค้าระหว่างกัน
(2) การเกษตร สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนด้านวิชาการเกษตร รวมถึงนักวิจัยและเกษตรกร
(3) การลงทุน ส่งเสริมให้มีการลงทุนระหว่างกันในด้านต่าง ๆ และร่วมกันจัดสัมมนาด้านการลงทุนร่วมกัน อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
(4) การท่องเที่ยว ส่งเสริมให้กำหนดจุดประสานงานร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน
(5) ความร่วมมือภาคเอกชน สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสมาคมการค้าต่าง ๆ ของไทยกับองค์กรส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของมณฑลกวางตุ้ง
(6) ด้านการศึกษาและสาธารณสุข สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนครูและนักเรียน และการร่วมมือกันด้านการป้องกันโรคระบาด ทั้งสองฝ่ายจะพิจารณาและทบทวนผลการดำเนินงานอีกครั้งในปี 2554 ซึ่งมณฑลกวางตุ้งจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งต่อไป
จีนเป็นตลาดขนาดใหญ่ของไทย เฉพาะที่มณฑลกวางตุ้ง มีประชากรจำนวน 95 ล้านคน โดยมณฑลกวางตุ้งเป็นจุดนำเข้าสินค้าไทยมากถึง 1 ใน 3 ของปริมาณสินค้าไทยทั้งหมดที่ส่งไปจีน และร้อยละ 70-80 ของสินค้าเกษตรของไทย ได้แก่ ข้าว ผลไม้ ยางพารา และมันสำปะหลัง เข้าสู่จีนทางมณฑลนี้ นอกจากนี้ ชาวกวางตุ้งยังเป็นชาวจีนกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ขณะที่ ในปี 2552 นักท่องเที่ยวจีนเป็นอันดับ 3 ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งหมดของไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--