ในช่วงเริ่มต้น นายกองเอก วิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้กล่าวต้อนรับคณะของกระทรวงฯ และแสดงความดีใจที่ชาวศรีสะเกษ ทั้งภาครัฐ ชุมชน นักวิชาการ และภาคประชาชน จะได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นบอกผ่านกระทรวงฯ ไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อจังหวัดศรีสะเกษและประเทศไทย รวมทั้งแสดงความหวังว่าการเสวนาในครั้งนี้จะนำมาซึ่งข้อเสนอแนะในเชิงบวกที่สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ
รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออกได้กล่าวถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา และแนวโน้มความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศว่า ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชามีพัฒนาการของความสัมพันธ์ที่ดี โดยความสัมพันธ์ระหว่างกันเริ่มมีปัญหาเมื่อมีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2551 โดยยังไม่มีการจัดทำหลักเขตแดนที่ชัดเจน อย่างไรก็ดี รัฐบาลไทยได้พยายามดำเนินการมิให้ปัญหาดังกล่าวกระทบความเป็นอยู่ของประชาชน ขณะที่อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ประชาชนเกี่ยวกับคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมไทย-กัมพูชา ปี 2543 (MOU ปี 2543) บันทึกการประชุม JBC (Agreed Minutes) ร่างข้อตกลงชั่วคราวระหว่างกัมพูชาและไทยที่เกี่ยวกับพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร (Provisional Arrangement) รวมทั้งตอบข้อสงสัยของคนไทยส่วนใหญ่เกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ จากนั้น ก็ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่มาเข้าร่วม เพื่อประมวลข้อมูลที่ได้รับจากการเสวนาในครั้งนี้เสนอรัฐบาลต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--