ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 65 (65th United Nations General Assembly - UNGA 65) ประเทศไทยจะผลักดันร่างข้อมติเกี่ยวกับข้อกำหนดของสหประชาชาติสำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำ และมาตรการที่มิใช่การคุมขังสำหรับผู้กระทำผิดหญิง (Draft United Nations Rules for the Treatment of Women Prisoners and Non-Custodial Measures for Women Offenders — the Bangkok Rules) ให้ได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เพื่อให้ประเทศต่างๆ ได้ใช้ข้อกำหนดเป็นแนวทางอ้างอิงในการปรับปรุงกฎหมายภายใน/กฏระเบียบด้านราชทัณฑ์ที่เกี่ยวกับผู้ต้องขังหญิงต่อไป
ประเทศไทยได้ริเริ่มการจัดทำร่างข้อกำหนดดังกล่าวภายใต้โครงการ “Enhancing Lives of Female Inmates: ELFI” ซึ่งเป็นโครงการที่ต่อยอดมาจากความสำเร็จของ “โครงการกำลังใจ” ในพระดำริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ที่ทรงประทานให้ผู้ต้องขังหญิง และบุตรติดผู้ต้องขัง โดยได้เริ่มต้นผลักดันร่างข้อกำหนดให้เป็นที่ยอมรับของประเทศสมาชิกสหประชาชาติตั้งแต่ในกรอบการประชุมคณะกรรมาธิการสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (Commission on Crime Prevention and Criminal Justice — CCPCJ) การประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council — HRC) การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (United Nations Congress on Crime Prevention and Criminal Justice — UN Congress) และการประชุมคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (Economic and Social Council — ECOSOC) ทั้งนี้ ร่างข้อกำหนดจะเข้าสู่การรับรองของสหประชาชาติในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 65 นี้
เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ร่างข้อกำหนดดังกล่าวในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 65 ประเทศไทยจะจัดนิทรรศการโครงการ Enhancing Lives of Female Inmates (ELFI) โดยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา จะเสด็จเป็นองค์ประธานในงานเปิดนิทรรศการ และจะประทานเลี้ยงรับรองให้แก่คณะทูตานุทูตและผู้บริหารระดับสูงของสหประชาชาติในวันที่ 6 ตุลาคม 2553 และจะมีพระดำรัสเปิดนิทรรศการเพื่อประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโครงการ ELFI และร่างข้อมติเรื่องข้อกำหนดดังกล่าว โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำหนดจะเดินทางไปเข้าร่วมงานเปิดนิทรรศการดังกล่าวที่อาคารสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์กด้วย เนื่องจากเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากร่างข้อมติเรื่องข้อกำหนดฯ ได้รับการรับรองจากสหประชาชาติแล้ว จะถือเป็นข้อกำหนดฉบับแรกของสหประชาชาติที่กำหนดแนวทางปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำ ซึ่งถือเป็นบทบาทเชิงรุกที่สำคัญของไทยในการส่งเสริมให้มีการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและส่งเสริมความยุติธรรมทางอาญาของผู้ต้องขังหญิงและบุตรติดผู้ต้องขังทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมพระเกียรติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในฐานะที่ทรงเป็นผู้ริเริ่มโครงการ ELFI จนร่างข้อมติเรื่องข้อกำหนดดังกล่าวของไทยได้รับการยอมรับในเวทีสหประชาชาติ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--