รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 20 ตุลาคม 2553

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 20 ตุลาคม 2553

1. ธปท.ชี้ผลมาตรการชะลอเงินลงทุนไหลเข้า ต้องใช้เวลา

2. อสังหาริมทรัพย์เกิดใหม่เดือน ก.ย. 53 ขยายตัวร้อยละ 34 ต่อปี

3. สหรัฐยังไม่มีแผนลดค่าเงินดอลลาร์

• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึง ความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่มีทั้งการแข็งค่าและอ่อนค่าลงในช่วงนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ทางการประกาศออกมาเพื่อดูแลค่าเงินบาท โดยเฉพาะการเก็บภาษีร้อยละ 15 จากกำไร และดอกเบี้ยพันธบัตรที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนนั้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและเป็นเรื่องธรรมชาติที่นักลงทุนต้องการแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ขณะนี้พวกที่เข้ามาลงทุนระยะยาวต้องทำความเข้าใจกับมาตรการที่ออกไป ซึ่งเป็นมาตรการใกล้เคียงกับที่ประเทศอื่นนำมาใช้

• สศค. วิเคราะห์ว่า ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจาก 33.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นปี 53 เป็น 29.87 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 18 ต.ค. หรือคิดเป็นร้อยละ 10 จากต้นปี และจากการติดตามในระยะสั้นหลังการประกาศมาตรการฯ (ระหว่างวันที่ 13 — 18 ต.ค. 53) เงินทุนต่างชาติได้เคลื่อนย้ายออกจากตลาดตราสารหนี้จำนวน 1.2 พันล้านบาท และเข้าสู่ตลาดตราสารทุนสุทธิที่ 5.0 พันล้านบาท ในขณะที่ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบระหว่าง 29.82 - 29.87 บาทต่อดอลลาร์ สรอ.หรืออ่อนค่าลงร้อยละ 0.17 หลังการประกาศมาตรการฯ

• ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผย จำนวนหน่วยขายอสังหาริมทรัพย์ในเดือน ก.ย. 53 ทั้งหมด 12,600 หน่วย มูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 33,600 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 60 ต่อปี โดยประเภทที่มีการพัฒนามากที่สุด คือ อาคารชุดมีจำนวน 11,184 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 89.0 ต่อปี ทั้งนี้ มูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือน ก.ย. 53 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 33,338 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 34.0 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่มีมูลค่าจำนวน 24,850 ล้านบาท

• สศค. วิเคราะห์ว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วนร้อยละ 3.9 ต่อ GDP โดยไตรมาส 2 ขยายตัวร้อยละ 1.6 ต่อปี ทั้งนี้ การขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่สอดคล้องกับภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวมในเดือน ก.ย. 53 ขยายตัวร้อยละ 85.1 ต่อปี บ่งชี้ถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับตลาดบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และตลาดทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนจากจำนวนที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อปล่อยใหม่จากธนาคารพาณิชย์ในเดือนส.ค. 53 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.4 และ 12.7 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ เพื่อรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้น

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่าเงินสกุลดอลลาร์จะยังคงเป็นสกุลเงินหลักในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของโลก และกล่าวต่อไปว่า นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของจีนเป็นนโยบายที่ไม่เป็นธรรมต่อประเทศคู่ค้า และเงินหยวนยังคงมีมูลค่าต่ำเกินจริง

• สศค. วิเคราะห์ว่า เงินสกุลดอลลาร์จะยังคงเป็นเงินสกุลหลักของโลกก็ต่อเมื่อนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐ โดยรัฐบาลสหรัฐจำเป็นต้องใช้นโยบายด้านการคลังเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวได้ดีขึ้นต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์ ในช่วงที่ผ่านมา นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของจีนได้เริ่มมีความผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น โดยอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากต้นปีร้อยละ 2.7 ต่อปี ปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 6.64 หยวนต่อดอลลาร์ ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2553 อย่างไรก็ตาม ค่าเงินหยวนยังแข็งค่าขึ้นน้อยกว่าค่าเงินสกุลอื่นๆ ของภูมิภาค เช่น ประเทศไทย เป็นต้น

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th